เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหัวค่ำวานนี้เวลา 21.00 น. ที่บริเวณใต้ถุนแฟลต 1 ดินแดง นายรัตนมงคล เลิศทวีวิทย์ ตัวแทนกลุ่มดินแดงไม่ทิ้งกัน พร้อมด้วยตัวแทนแฟลต 1 ดินแดง ในฐานะผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมย่านดินแดง และตัวแทนกลุ่มทะลุแก๊ส ได้ตั้งโต๊ะเจรจาหารือทางออกแนวทางการอยู่ร่วมกัน หลังก่อนหน้านี้ชาวแฟลตดินแดงได้รับกระทบจากการที่กลุ่มมวลชนได้ชุมนุม และมีการปะทะกับตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ทุกครั้ง เป็นเวลามากกว่า 1 เดือน

นายรัตนมงคล กล่าวว่า การหารือครั้งนี้ประเด็นสำคัญมาจากการที่ชาวดินแดงส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบอย่างหนักต่อการดำรงชีวิตจากการชุมนุมในพื้นที่ ทั้งนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่โทษกลุ่มผู้ชุมนุมหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการปะทะกันเพราะเข้าใจว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ชาวบ้านก็อยากให้ลดความรุนแรงและผลกระทบที่อาจจะเกิดกับคนในพื้นที่ ทั้งนี้ที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐมักจะใช้กฎหมายมาบังคับใช้ ซึ่งไม่มีตัวแทนของรัฐมารับฟังกลุ่มผู้ชุมนุม จึงเป็นที่มาของการหารือเจรจาเพื่อให้ชาวบ้านแฟลตดินแดงที่ได้รับผลกระทบสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

สำหรับความเดือดร้อนของชาวบ้านย่านดินแดง สามารถแบ่งออกเป็นประเด็นหลักๆ คือ เสียงดังที่มาจากกลุ่มผู้ชุมนุมใช้ระหว่างชุมนุม และมีการขว้างปาข้าวของหลุดรอดเข้าไปใกล้กับที่พักอาศัยทำให้ความเดือดร้อน อีกทั้งทรัพย์สินของชาวบ้านได้รับความเสียหายจากการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งจากประทัดที่มีการขว้างปา กระสุนยาง และแก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามจากการหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง ทางกลุ่มทะลุแก๊สรับฟังข้อเรียกร้องถึงความเดือนร้อนของชาวแฟลตดินแดง และจะกลับไปหารือแนวทางในการเคลื่อนไหวชุมนุมต่อเพื่อไม่ให้กระทบหรือสร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้องชาวแฟลตดินแดง

โดยเบื้องต้นทางกลุ่มทะลุแก๊สได้รับปากว่า หลังเวลา 21.00 น. ทางกลุ่มจะไม่มีการโยนปะทัดหรือจุดพลุ เบิ้ลรถจยย. ที่ส่งเสียงดังรบกวนชาวดินแดง รวมทั้งงดใช้เสียงบริเวณถนนหน้าแฟลตดินแดง ตลอดจนบริเวณเกาะกลางสามเหลี่ยมดินแดง และจะใช้พื้นที่หน้าแฟลตดินแดงเป็นจุดรวมตัวหลังเวลาวิกาล ในส่วนกรณีที่เป็นกลุ่มคนนอกพื้นที่ที่ไม่ได้เป็นกลุ่มทะลุแก๊สที่มาร่วมชุมนุมเคลื่อนไหวนั้น ในแต่ละวันจะมีไม่ต่ำกว่า 200 คน แต่จะกระจัดกระจายไปรวมกลุ่มตามจุดต่างๆ ซึ่งทางกลุ่มรับปากจะเข้าไปห้ามปรามในกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มอื่นมาก่อความเดือดร้อน ทั้งนี้ขอเวลาปรับแนวทางและจะพยายามให้เกิดน้อยที่สุดจนถึงไม่ให้มีเลย อีกทั้งช่วยดูแลเรื่องความเรียบร้อยในบริเวณจะรบกวนคนแฟลตให้น้อยที่สุด

อีกทั้งมีการตั้งคำถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่หลังจากนี้จะมีการหารือทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งตำรวจ ผู้ชุมนุม และชาวบ้านซึ่งประเด็นนี้ทางกลุ่มทะลุแก๊สขอไปหารือกันก่อน เพราะทางกลุ่มก็มีความไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ เนื่องจากว่าที่ผ่านมาตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนที่ชุมนุม ตอบโต้กันโดยเจ้าหน้าที่ก็ใช้ความรุนแรง ซึ่งต้องมีคนกลางที่จะไว้วางใจ ขณะที่นายรัตนมงคล มองว่า สถานการณ์ตอนนี้อยากจะขอให้ค่อยเป็นค่อยไป เจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมคือคู่ขัดแย้งแต่ชาวบ้านต้องมารับเคราะห์ได้รับผลกระทบ ซึ่งการที่ทางแกนนำทะลุแก๊สยินดีมาพูดคุยรับฟังความเดือดร้อนของชาวแฟลตดินแดงก็ถือว่าเป็นก้าวแรกที่ดีที่จะนำไปสู่การเจรจา

อย่างไรก็ตามขอขอบคุณทั้งคนแฟลตและน้องๆ กลุ่มทะลุแก๊ส จากสิ่งที่เราได้ร่วมหาข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันและพยายามปรับเข้าหากันเพื่อหาจุดที่อยู่ร่วมกันและลดความขัดแย้งให้กลายเป็นบรรยากาศที่ดีในการอยู่ร่วมกัน