เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพหญิงสูงอายุที่กำลังถือทองรูปพรรณ 1 เส้น พร้อมระบุว่า “ขอบคุณยายแค่นมากๆ ครับ เก็บทองได้ติดต่อส่งคืนเรียบร้อยแล้วครับ สังคมน่าอยู่ครับ วิเชียรบุรีบ้านเรา ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆ นะครับ” ปรากฏว่ามีผู้เข้ามาชมและแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนแต่ชื่นชมในความดีของยายแค่นเป็นอย่างมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับเจ้าของโพสต์รายดังกล่าว ทราบชื่อต่อมา คือ นายภัทรพล บินเย็น อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/2 หมู่ 10 ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพเปิดแผงพระอยู่ภายในวัดในเรืองศรี ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี ส่วนทองที่หายไปและได้คืนนั้น เป็นสร้อยข้อมือหนัก 1 บาท โดยแฟนเป็นคนใส่ ซึ่งตามปกติก็จะเก็บไว้ จะใส่ก็ต่อเมื่อไปงานต่างๆ โดยเมื่อวานนี้ตนกับภรรยาได้มาร่วมงานฌาปนกิจศพคนที่รู้จักกันภายในวัดแห่งนี้ เมื่อเสร็จแล้วได้แวะซื้อข้าวเหนียวมะม่วง จากนั้นก็ได้กลับบ้าน เมื่อกลับถึงบ้านสักพักแฟนจึงรู้ตัวว่าสร้อยข้อมือได้หายไป จึงได้ออกหาตามเส้นทางจากบ้านไปวัด แต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด จึงได้ประกาศตามหาในเฟซบุ๊ก ซึ่งหลังจากลงประกาศได้ไม่นานก็มีคนติดต่อมาว่า ยายแค่น เป็นผู้เก็บได้ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบและพบว่าเป็นสร้อยข้อมือของแฟนจริงๆ ตนจึงได้แสดงหลักฐานการซื้อ และบอกรูปพรรณได้ถูกต้อง ยายแค่นจึงคืนให้ ซึ่งตนและภรรยาก็ได้มอบสินน้ำใจให้จำนวนหนึ่ง

“เมื่อออกหาครั้งแรกไม่เจอ ตนก็ทำใจแล้ว เพราะทองน้ำหนัก 1 บาท เดี๋ยวนี้มูลค่า 4 หมื่นกว่าบาท จึงคิดว่าไม่น่าจะได้คืน แต่แล้วหลังจากลงเฟซบุ๊กไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีคนติดต่อมา นับว่าเป็นความโชคดีของตนและภรรยาเป็นอย่างมาก จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อแสดงความขอบคุณ และเป็นการเชิดชูคุณงามความดีของยายแค่นด้วย” นายภัทรพล กล่าว

ด้านนางวงเดือน วรรณะประเถา หรือ ยายแค่น อายุ 57 ปี กล่าวว่า เมื่อตนเดินไปซื้อของที่ตลาดวัดในเรืองศรี และได้สังเกตเห็นทองตกอยู่กับพื้น 1 เส้น จึงหยิบขึ้นมาดูตอนแรกก็ยังคิดสองจิตสองใจว่าจะเป็นทองจริงหรือทองปลอม จึงเก็บใส่กระเป๋าเสื้อไว้ เมื่อเดินมาสักพักก็เอาออกมาดูอีกและคิดว่าน่าจะเป็นทองปลอมแน่ๆ จึงจะเอาทิ้งลงในท่อ แต่ก็มาคิดอีกทีว่าจะเอาไปให้หลานๆ ใส่เล่น เมื่อกลับมาถึงบ้านก็โทรไปบอกลูกชายว่าเก็บทองได้ 1 เส้น แต่ไม่รู้ว่าของจริงหรือของปลอม ลูกชายจึงบอกให้เก็บไว้เผื่อเป็นของจริง และเจ้าของตามหาจะได้เอาคืน หลังจากนั้นอีกไม่นานลูกชายก็โทรมาบอกว่า มีคนประกาศทำทองหาย ตนจึงให้ลูกชายประสานเจ้าของให้มาดูที่บ้าน โดยที่ลูกชายได้ย้ำว่าต้องให้เขาบอกรายละเอียดทองที่ยายเก็บไว้ว่าตรงกันหรือไม่ เพราะกลัวว่าจะเป็นคนแอบอ้าง ซึ่งตนก็ได้สอบถามจนมั่นใจว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริงจึงได้มอบคืนให้ไป.