ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ของคนในวงการบันเทิง หลังดาราและผู้จัดละครคนดัง “นก จริยา” ได้ออกมาตัดสินใจปลงผมบวชชี ก่อนจะลาสิกขาออกมา และมีรูปที่เธอลงตอนกำลังปลงผมให้สามีอย่าง “จอนนี่ แอนโฟเน่” โดยได้ไปบวชอยู่ที่ประเทศศรีลังกา พร้อมกับได้รับฉายาว่า “พระจอนนี่ ฉนฺทชาโต” ท่ามกลางแฟนคลับที่ร่วมอนุโมทนาบุญกันอย่างมากมาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด พระจอนนี่ ก็ได้ออกมาเผยสาเหตุที่ออกบวช พร้อมเปิดใจเล่าถึงตอนไฟไหม้ 30 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย ตั้งแต่เอวขึ้นมาด้านซ้ายทั้งหมด ยังเป็นแผลเป็นอยู่ ว่า “เจริญพรโยมทุกท่านนะครับ สำหรับคนที่เป็นเอฟซีของติ๊กต็อกโยมนเรศน์ทุกท่าน อาตมาจอนนี่ แอนโฟเน่นะครับ ก็ต้องบอกว่าวันนี้สิ่งที่อยากจะมาพูดก็คือเรื่องของกรรม ซึ่งติ๊กต็อกของโยมนเรศร์ถามมาเยอะแยะมากมายเลยนะครับ ถึงเหตุการณ์ที่ผมเคยได้ไฟไหม้ อาตมาไฟไหม้ครั้งนั้นก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วนะครับ และทำให้เจ็บสาหัส ไหม้ไปถึงกับ 30% ของร่างกาย ตั้งแต่เอวขึ้นมาด้านซ้ายทั้งหมด และมีแผลเป็นอยู่ตอนนี้ จีวรก็บังอยู่มองไม่เห็น แต่ว่าสิ่งสำคัญที่อยากจะพูดถึงนั่นก็คือเรื่องของกรรม สิ่งที่เราได้ทำเอาไว้ ทำไมถึงได้เกิดสิ่งนี้ ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิด และเกิดเพราะอะไร มาเพราะอะไร นั่นคือเรื่องของกรรมทั้งนั้นครับ สมัยก่อนผมไปอยู่หมู่บ้านที่ผมอยู่เมื่อ 32 ปีที่แล้ว เป็นหมู่บ้านที่ซื้อบ้านแล้วปลูกเอง ไม่ได้เป็นหมู่บ้านจัดสรร เพราะฉะนั้นบ้านก็จะอยู่ห่างๆ กันไป

อาตมาจะเล่าโดยสรุปก็คือว่าเราก็จะเป็นเหยื่อของหนู หนูจะเข้าบ้านเยอะมากเลย และอาตมาเป็นผู้ชายคนเดียวที่อยู่ที่บ้านก็จะดักหนู และก็หาวิธีที่จะกำจัดหนู เราก็นึกไม่ออกว่าจะกำจัดหนูยังไง เพราะฉะนั้นก็คิดหาสารพัดวิธีที่จะกำจัดเขา ทั้งเอาน้ำมันราดจุดไฟเผา ทั้งเอาถ่วงน้ำ แต่ส่วนใหญ่ถ่วงน้ำเนี่ยเขาจะตาเหลือกและมองหน้าเราและขาดใจตาย อาตมาก็เลยมีความรู้สึกว่ามันดูทารุณเหมือนกัน นั่นว่าทารุณแล้วนะครับ ส่วนใหญ่ก็จะใช้น้ำมันรอนสันราดเข้าไปในกรงเขา แล้วก็จุดไฟเลยครับ เขาก็ดิ้นทุรนทุราย 3-4 ตัวอยู่ในกรง แล้วก็ถ้ายังไม่ตายโดยเร็ว อาตมาก็จะราดน้ำมันเข้าไปอีก เพื่อเร่งให้เขาจะตายเร็วๆ

บางตัวก็ตายโดยง่าย แต่บางตัวที่อาตมาเคยเห็นจะมายืนตรงลูกกรงแล้วมองหน้าเรา เราจำได้ถึงตาเขาที่แค้นเราอย่างสุดแสนจะแค้น ไม่ว่าชาตินี้ ชาติไหน ชาติอะไรก็แล้วแต่ เขาต้องตามล้างแค้นเราให้ได้ วันที่อาตมาถูกไฟไหม้ อาตมาถูกหิ้วตัวเข้าสู่โรงพยาบาล ถูกฉีดยาให้สลบ เพราะว่าต้องรักษา เราดิ้นรนเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาใกล้เราเลย ถูกล็อกด้วยบุรุษพยาบาลประมาณ 5-6 คน แล้วก็ให้ยานอนหลับ อาตมาโดนถึง 5 โดสหลับไป เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ตอนกลางวันเวลาประมาณเที่ยงถึงบ่ายโมง อาตมามาฟื้นเอาเช้าวันจันทร์ ประมาณตี 4 ตี 5 หลังที่ฟื้นตัวขึ้นมานอนอยู่ในห้องไอซียู ห้องปลอดเชื้อนอนคนเดียว

เชื่อมั้ยครับว่าภาพบนเพดานที่อาตมามองเห็น หรืออาตมาจะเบลอ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าคือหนูทั้งหมดที่เราเคยฆ่าเขา ที่สายตาที่เราเคยเห็นเขาเลยว่าเขาเคยมาจ้องมองตรงกรงที่เราดักเขา แล้วเราจุดไฟเผาเขา ตาเขาถลน ตาเขามอง คืออาตมาเห็นเป็นร้อยๆ ตัวที่อยู่บนเพดานห้องพยาบาล อาตมาก็ตกใจและถามบุรุษพยาบาลว่าที่นี่คือที่ไหน บุรุษพยาบาลก็แจ้งว่าที่นี่คือโรงพยาบาลนี้ วันนี้วันอะไร วันนี้กี่โมง พออาตมาทราบเสร็จอาตมาก็หลับไปเลย และก็ไปฟื้นตามปกติ แต่หลายๆ ครั้งเวลาเราให้มอร์ฟีนเพื่อบำบัดความเจ็บของอาการไฟไหม้ เพราะว่ามันเจ็บ มันแสบ มันร้อน มันทรมานแบบไม่มีอะไรที่จะเจ็บจะแสบจะทรมานมากกว่านี้แล้วในโลกและในชีวิตนี้ อาตมาขอเตือนไว้เลยนะคือเรื่องไฟ ทุกครั้งเวลาที่เราได้มอร์ฟีนเข้าไป มันก็จะอยู่ในภวังค์ที่เราจะเคลิ้มๆ พวกเขาก็จะมาลอยอยู่ข้างหน้าอีกเหมือนกัน และหลังจากที่อาตมาออกจากโรงพยาบาล ใช้เวลารักษาตัวอยู่หลายต่อหลายเดือน จนเกือบปีนึง ทั้งหลอดเลือดดำที่ขาก็ตีบ ทั้งต้องติดมอร์ฟีน ต้องมานั่งเลิกมอร์ฟีนอีกประมาณ 5-6 เดือน รักษาที่โรงพยาบาลขัดแผล 9 ครั้ง มีผ่าตัดเอาหนังตรงนั้นมาแปะตรงนี้ อีกเกือบ 2 เดือน รวมๆ แล้วเป็น 1 ปีทุกข์ทรมานอยู่กับการรักษา และภาพต่างๆ ที่เราเห็น

พอหลังจากที่ออกมาก็มีคนมาทักอาตมาบอกว่าเจ้ากรรมนายเวรเขารออยู่นะ อาตมาตกใจมากเลยนะ ตอนนั้นเพิ่งรักษาตัวหายและไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องเป็นเขาแน่ เพราะสิ่งที่เราเห็นมีแต่เขาทั้งนั้นเลย คือพวกหนูทั้งหมด และมีเพื่อนได้เป็นสะพานบุญ ซึ่งเพื่อนก็ได้มาบวชที่วัดเทพศิรินทร์ อาตมาก็ไม่มีเหตุอันใดเลยนะครับ บรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูงตามมางานบวชด้วย และหลวงพ่อเจ้าพระคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนีก็ได้ถามอาตมาว่าบวชมั้ย อาตมาก็บอกว่าช่วงนี้งานยุ่ง แต่คืนนั้นกลับไปคิดทั้งคืนเลยครับ และก็ได้แต่ภาวนาว่าบวชดีกว่า ถ้ารอให้ว่างเมื่อไหร่ก็ไม่มีเวลาว่างแน่นอน และก็ได้ภาวนาอธิษฐานว่าพรุ่งนี้จะไปใส่บาตรใหม่ และให้เจ้าพระคุณสมเด็จธีรญาณมุนีถามอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นไปได้ยากนะครับว่าเราจะได้เจอท่านมั้ย ท่านจะเดินผ่านเรามั้ย และท่านจะถามเราอีกครั้งหนึ่งหรือไม่ อาตมาก็ไปอยู่ที่เดิม นั่งเหมือนเดิมและรอใส่บาตร ปรากฏว่าเจ้าพระคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี พระอุปัชฌาย์ของอาตมานั้นก็ได้เดินมา และได้ถามคำเดิม ท่านก็ถามว่า ว่ายังไง ตกลงจะบวชมั้ย อาตมาไม่คิดเลยครับ รีบตอบทันที เพราะเตรียมคำตอบไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ว่าบวชครับ

หลังจากบวชนั้นอาตมาก็ได้อุทิศส่วนกุศลผลบุญต่างๆ ที่อาตมาทั้งที่ได้บวช ทั้งที่ได้ให้ทาน ทั้งที่ทำบุญทั้งหมด ให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่เราได้ทำต่อเขา หลังจากนั้นชีวิตก็ดีขึ้นๆ และเราก็ไม่เคยเห็นเขาอีกเลย นี่คือเรื่องของกรรมเวร เพราะฉะนั้นใครก็ตามนะครับที่ไม่เชื่อเรื่องกรรมเวรมีจริง ทำร้ายเขา คิดว่าชาตินี้ตามไม่ทันหรอก หรือเขาเป็นสัตว์ มันไม่มีทางเรียกเป็นเวรเป็นกรรมกัน ในกรณีของอาตมา อาตมายกให้เป็นตัวอย่างเลย อาตมาเผามาเป็นร้อยๆ ตัว และสุดท้ายเขาก็กลับมาเผาอาตมาชนิดที่เรียกว่าเกือบตายเหมือนกัน ยังดีที่ยังเอาชีวิตรอดมาได้ นี่แหละครับคือเรื่องเวรกรรมของอาตมา เจริญพรนะโยม”..

ขอบคุณคลิป : pontreenares