เมื่อวันที่ 30 เม.ย. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะโฆษก ศธ. เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่มี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้นั้น ได้มีมติเห็นชอบการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2566 เห็นชอบการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ การปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ การปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว และแนวทางปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบราชการ

โดยข้าราชการครูจะได้รับการปรับอัตราเงินเดือนใหม่พร้อมกันในวันที่ 1 พ.ค. 2567 และวันที่ 1 พ.ค. 2568 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุทุกคุณวุฒิ เป็นกลุ่มของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่บรรจุใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2567 และ 1 พ.ค. 2568 และกลุ่มที่ 2 การปรับเงินชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบ เป็นกลุ่มของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งอยู่ก่อนวันที่อัตราเงินเดือนแรกบรรจุใหม่มีผลใช้บังคับวันที่ 1 พ.ค. 67 และ 1 พ.ค. 68 และได้รับอัตราเงินเดือนไม่เกินอัตราสูงสุดที่กำหนดให้ได้รับการปรับเงินเดือนชดเชยในแต่ละคุณวุฒิ

สำหรับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุทุกคุณวุฒิ จะทยอยปรับเพิ่มปีละ 10% ในปี 2567 และ 2568 และภายใน 2 ปี ผู้ที่บรรจุด้วยคุณวุฒิปริญญาตรีจะได้รับเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท และปรับคุณวุฒิอื่นๆ ให้สอดคล้อง ส่วนการปรับอัตราเงินเดือนชดเชยกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบ จะดำเนินการปรับอัตราเงินเดือนจำนวน 2 ครั้ง พร้อมกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ โดยปรับชดเชยเงินเดือนข้าราชการที่เข้ารับราชการก่อนวันที่อัตราเงินเดือนแรกบรรจุที่กำหนดใหม่มีผลใช้บังคับ และมีฐานเงินเดือนต่ำกว่าอัตราเงินเดือนแรกบรรจุที่กำหนดใหม่

นอกจากกลุ่มข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับการปรับเงินเดือนขึ้นแล้ว กระทรวงศึกษาธิการยังดำเนินการตามมติ ครม.ในการปรับเงินเดือนกลุ่มเป้าหมายข้าราชการพลเรือนสามัญ พนักงานราชการที่อยู่ในสังกัดอีกด้วย รวมถึงการปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพดานเงินเดือนขั้นสูงที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว จากเดิมเงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 13,285 บาท เป็น ไม่ถึงเดือนละ 14,600 บาท ปรับเพดานขั้นต่ำของเงินเดือนรวมกับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว จากเดิมเดือนละ 10,000 บาท เป็น เดือนละ 11,000 บาท และปรับเงินเพิ่มการครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญขั้นต่ำจากเดิม 10,000 บาท เป็น 11,000 บาท

“เรียกว่าเป็นเรื่องของครูที่จะได้รับการปรับอัตราเงินเดือนใหม่พร้อมกันในวันที่ 1 พ.ค. ถือเป็นอีกเรื่องสำคัญในการส่งเสริมนโยบาย “เรียนดีมีความสุข” และการพัฒนาการศึกษาของประเทศ การลดภาระครูจะส่งผลดีต่อการศึกษาของนักเรียนและการเจริญเติบโตของสังคมทั้งหมด การเพิ่มเงินเดือนยังเป็นการยืนยันถึงความห่วงใยและความใส่ใจที่รัฐบาลมอบให้ครูและข้าราชการทุกคนในประเทศอย่างเต็มใจ ขอให้การเพิ่มเงินเดือนนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการเสริมสร้างกำลังใจให้แก่ครูและข้าราชการทุกคนในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีความสุขยิ่งขึ้นต่อไป” นายสิริพงศ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 พ.ค. 2567 ยังเป็นวันที่เริ่มจ้างนักการภารโรงจำนวน 13,751 อัตรา ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่มุ่งลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนของครู โดยให้โรงเรียนมีผู้ปฏิบัติงานนักการภารโรงครบทุกโรงเรียน ซึ่งหน้าที่ของนักการภารโรง ได้แก่ ดูแลและทำความสะอาดบริเวณทั่วไปภายในพื้นที่ของโรงเรียน เพื่อให้โรงเรียนมีความเหมาะสมต่อการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนการสอน ดูแลอาคารเรียนและดูแลความสะดวกในการใช้พื้นที่ของโรงเรียน รวมถึงงานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย