เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 11-17 พ.ย. 66 ตนจะเดินทางร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่สหรัฐอเมริกา โดยกระทรวงคมนาคมจะใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ และนำเสนอข้อมูล พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนต่างประเทศ (Road Show) เกี่ยวกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย (แลนด์บริดจ์) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่รัฐบาลอยู่ระหว่างผลักดัน เพื่อให้เอกชนทั้งไทย และต่างชาติเข้าร่วมลงทุนโครงการนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคม ยังมีเป้าหมายจะ Road Show โครงการแลนด์บริดจ์ไปในอีกหลายประเทศ นับตั้งแต่วันนี้จนถึงต้นไตรมาสที่ 1 ปี 67 หรือประมาณเดือน ม.ค. 67

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ขณะนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบในหลักการ และให้กระทรวงคมนาคมเริ่ม Road Show ตั้งแต่เดือน พ.ย. นี้ เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้าร่วมลงทุนในแลนด์บริดจ์ ซึ่งการเดินทางไปร่วมประชุมเอเปกครั้งนี้ จึงถือเป็นการประเดิม Road Show โครงการนี้ โดยกระทรวงฯ จะใช้เวทีกลุ่มย่อยในการเจรจาความร่วมมือด้านการคมนาคมและการขนส่งประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ เพื่อเป็นสื่อกลางไปยังนักลงทุนเอกชนต่อไป ส่วนก่อนหน้านี้ที่ร่วมเดินทางไปประเทศจีน เพื่อหารือทวิภาคีร่วมกับนายกรัฐมนตรีจีน ทางนายเศรษฐาก็ได้หยิบยกเรื่องแลนด์บริดจ์มาพูดคุยด้วย ซึ่งเบื้องต้นก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนจีน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐบาลอยู่ระหว่างเร่งจัดทำร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ พ.ศ. … เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคใต้ (SEC) ซึ่งโครงการแลนด์บริดจ์ จะอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย เบื้องต้นคาดว่ากฎหมายฉบับนี้จะแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 67

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นจะมีการตั้งสำนักงานพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ เพื่อเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนโครงการนี้ ซึ่งหากขั้นตอนเหล่านี้แล้วเสร็จ คาดว่าแลนด์บริดจ์จะสามารถเริ่มเปิดให้มีการยื่นข้อเสนอการลงทุนจากเอกชนได้ในปี 68 อย่างไรก็ตาม สำหรับกรอบการดำเนินงานที่ ครม. อนุมัติในการผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์นั้น ประกอบด้วย ให้กระทรวงคมนาคมโรดโชว์โครงการแลนด์บริดจ์ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือน ม.ค. 67 และกำหนดให้เอกชนยื่นข้อเสนอเดือน เม.ย.-มิ.ย. 68 จากนั้นจะเสนอ ครม. เห็นชอบรายชื่อผู้ชนะการประมูลในโครงการภายในเดือน ส.ค. 68 และให้เอกชนที่ชนะการประมูลเริ่มก่อสร้างในเดือน ก.ย. 68 โดยโครงการนี้ จะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 5 ปี และคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในเดือน ต.ค. 73

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ของกระทรวงคมนาคมนั้น เบื้องต้นจะใช้วงเงินรวมกว่า 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น โครงการท่าเรือฝั่งชุมพร 3 แสนล้านบาท, โครงการท่าเรือฝั่งระนอง 3.3 แสนล้านบาท, โครงการพัฒนาพื้นที่เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้า (SRTO) รวม 1.4 แสนล้านบาท และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเส้นทางเชื่อมโยงท่าเรือ วงเงินราว 2.2 แสนล้านบาท.