ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างสุดขั้ว ร้อนแล้ง น้ำท่วม พายุฤดูร้อนที่รุนแรงขึ้นจนสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน จึงต้องอาศัยการทำงานแบบบูรณาการ เมื่อเร็วๆ นี้ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ กับ มหาวิทยาลัยมหิดล (คณะสาธารณสุขศาสตร์) สร้างความร่วมมือ เสริมสร้างศักยภาพบุคคลากร พัฒนาการความรู้ทางวิชาการ และงานวิจัยด้านการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ เสริมสร้างสุขภาวะที่ดีให้แก่สังคมไทย โดยมี ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และ ศาสตราจารย์นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน

ดร.พิรุณ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความร้อนที่สุดขั้วในช่วงฤดูร้อนนี้ จึงได้มีความพยายามที่จะรับมือกับความเสี่ยงและการป้องกันความเสียหาย ทั้งต่อประชาชน ระบบเศรษฐกิจ สังคม ระบบนิเวศ และพร้อมจะยกระดับการดำเนินการเพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งการที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น จำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งและความร่วมมือทุกภาคส่วน ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยมหิดลที่มีผู้เชี่ยวชาญการวิจัยทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณสุขศาสตร์ อีกทั้งสหสาขาวิชาทางเทคโนโลยี จะช่วยกันส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาการศึกษา วิจัยและความรู้ทางวิชาการในด้านการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป

ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในปี 2566-2567 ที่ผ่านมา เกิดการสุดขั้วของสภาพอากาศที่ถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้น ทำให้บั่นทอนการพัฒนามนุษย์และก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมมากขึ้น โดยการลงนามความร่วมมือในวันนี้ จะนำไปสู่การจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีของคนในสังคม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป