ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยพุ่งทุบทำลายสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้รายงานยอดรวมการใช้ไฟฟ้าของไทยจาก 3 การไฟฟ้า (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ., การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือพีอีเอ และการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน.) เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 พบว่าช่วงค่ำเวลา 21.00 น. คนไทยใช้ไฟฟ้าพุ่งสูงสุดสร้างสถิติใหม่ของประเทศไทยถึง 36,699 เมกะวัตต์ ซึ่งนับเป็นยอดการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) เป็นประวัติการณ์ ครั้งที่ 3 ในปี 2567 นี้

สำหรับไฟพีคครั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมทั่วประเทศ โดยบางพื้นที่อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 44 องศาเซลเซียส ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้นและมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อคลายความร้อนมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุให้ยอดการใช้ไฟฟ้ามากจนทำลายสถิติพีคไฟฟ้าของประเทศเป็นครั้งที่ 3 อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยายังรายงานว่าไทยยังต้องเผชิญอากาศที่ร้อนสูงสุดในวันที่ 30 เม.ย. 2567 อีกวัน ก่อนที่อากาศจะทยอยปรับเข้าสู่ปรากฏการณ์ลานีญาที่จะมีฝนตกชุกมากขึ้น ดังนั้นมีโอกาสที่ไทยจะเกิดพีคไฟฟ้าสูงสุดได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อติดตามภาพรวมการใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ต้นปี 2567 จะพบว่า เกิดพีคไฟฟ้าเฉพาะของปี 2567 ขึ้น 10 ครั้ง โดยมี 3 ครั้งที่นับเป็นพีคไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศไทย ดังนี้

ครั้งที่  1 เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567 เวลา 19.24 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 30,989.3 เมกะวัตต์

ครั้งที่  2 เมื่อวันที่  7  มี.ค. 2567 เวลา 19.47 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 32,704 เมกะวัตต์

ครั้งที่  3 เมื่อวันที่  1 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 33,340 เมกะวัตต์

ครั้งที่  4 เมื่อวันที่  2 เม.ย. 2567 เวลา 20.51 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 33,827.1 เมกะวัตต์

ครั้งที่  5 เมื่อวันที่  4 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,196.5 เมกะวัตต์

ครั้งที่  6 เมื่อวันที่  5 เม.ย. 2567 เวลา 22.22 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,277.4 เมกะวัตต์

ครั้งที่  7 เมื่อวันที่  6 เม.ย. 2567 เวลา 20.54 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,656.4 เมกะวัตต์

ครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 เวลา 20.58 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 35,830 เมกะวัตต์ (สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 1)

ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2567 เวลา 20.57 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 36,356.1 เมกะวัตต์ (สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 2)

ครั้งที่ 10 เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 36,699.9 เมกะวัตต์ (สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 3)

นอกจากการเกิดพีคไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 3 ของไทยแล้ว ยังเป็นการเกิดพีคไฟฟ้าครั้งที่ 10 เฉพาะของปี 2567 ด้วย ซึ่งจำนวนการเกิดพีคไฟฟ้าดังกล่าวนับเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 8 ปี นับจากปี 2559 ที่เคยมีจำนวนการเกิดพีคสูงสุดอยู่ 7 ครั้ง มียอดใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 29,618 เมกะวัตต์

นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ประเทศไทยมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 36,699.9 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ซึ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์การใช้ไฟฟ้าของประเทศไทย โดยจะเห็นได้ว่าเป็นการเกิดพีคในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หรือ Solar Cell ไม่สามารถที่จะผลิตไฟฟ้าออกมาช่วยรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในระบบได้

ทั้งนี้ตัวเลขระดับกำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง (Reserve Margin) ซึ่งเป็นการคำนวณจากกำลังผลิตไฟฟ้าที่คาดว่าจะสามารถผลิตได้จริงของโรงไฟฟ้าแต่ละชนิดในช่วงที่จะเกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) เทียบกับความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด พบว่าประเทศไทยยังคงมีกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองอยู่ที่ประมาณ 25.8% ลดลงจากปี 2566 ที่ผ่านมา (ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 34,826.5 เมกะวัตต์ ในเดือน พ.ค. 2566 ซึ่งคิดเป็นกำลังผลิตสำรองประมาณ 30.9%) อย่างไรก็ดี กระทรวงพลังงานจะติดตามการใช้ไฟฟ้าและการสำรองไฟฟ้าของประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป