เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี ตั้งอยู่ริมถนนสายอุทัย-ภาชี หมู่ที่ 2 อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นโกดังร้าง มีคนลักลอบนำสารเคมีมาเก็บ จนท.ยึดไว้เป็นของกลางในคดี 4 พันตัน จุดเกิดเหตุเป็นโกดังที่4และ5 กำลังเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง กลุ่ม ควันดำพวยพุ่ง สู่ท้องฟ้า ส่งกลิ่นเหม็น เป็นวงกว้าง

โดย นายนพดล พลซื่อ นายอำเภอภาชี, นายสเกน จันทร์ผดุงสุข นายกเทศมนตรี อ.เมืองภาชี, หัวหน้าป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานรถน้ำกว่า 10 คัน ร่วมกันวางแผนในการเข้าดับเพลิงเนื่องจากด้านในโกดังเป็นที่เก็บสารเคมี และไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีชนิดใด  ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างรุกราน เบื้องต้นทางเทศบาลภาชีได้ประกาศเสียงตามสายให้เร่งอพยพชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบ หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 อยู่ในระยะ 3 กิโลเมตร ออกนอกพื้นที่แล้ว

ขณะที่ นายประทุม อบสุคนธ์ 70 ปี ชาวบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบอกว่า ตอนนี้บ้านตนเองได้รับผลกระทบเต็มๆ ต้องอพยพคนแก่และเด็กเล็กออกนอกพื้นที่ทันที โดยตนอยู่ฝั่งตรงข้ามต้องคอยเฝ้าระวังเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุเหมือนกรณี จ.ระยอง จนกระทั่งวันนี้มันเริ่มมีกลิ่นเหม็นรุนแรงช่วงบ่าย 2 โมง ตนเองได้เห็นกลุ่มควันขึ้นเพียงเล็กน้อยแต่ก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่เทศบาลนำรถดับเพลิงเข้ามาสแตนด์บายในจุดเกิดเหตุจนกระทั่งล่าสุดช่วง 18.00 น. กลุ่มควันและแสงเพลิง อย่างรุนแรงซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ตนมองว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผลกระทบก็ตกอยู่ที่ชาวบ้านทั้งหมด เพราะว่ามีหน่วยงานเข้ามาดูตรวจสอบแต่ก็ไม่ได้เร่งดำเนินการและขนย้ายสารเคมีออกไปนอกพื้นที่

ล่าสุด นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่สั่งการด้วยเอง พร้อมสั่งการขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียง จังหวัดใกล้เคียงเพื่อเข้ามาเร่งควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด.