รายงานข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แจ้งว่า ได้ดำเนินโครงการจัดทำป้อมปล่อยรถโดยสาร (รถเมล์) จำนวน 1 ป้อม งบประมาณ 264,557.50 บาท อยู่ในขั้นตอนคณะกรรมการตรวจรับโครงการ เมื่อแล้วเสร็จจะนำไปติดตั้งที่เกาะพหลโยธิน บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ในวันที่ 3 พ.ค. 67 ซึ่งจะมีนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของพนักงาน และการใช้งานป้อมปล่อยรถโดยสารต้นแบบในเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน หลังจากนั้นจะประเมินผลการทำงานป้อมปล่อยรถเมล์จากประชาชนและพนักงานที่ใช้บริการประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อสรุปผลต่อไป

หากพบว่าประสบความสำเร็จจะขยายผลนำไปใช้กับป้อมปล่อยรถเมล์ของ ขสมก. บริเวณต้นทาง-ปลายทาง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑลที่มีอยู่ 100 ป้อมในอนาคตต่อไป ซึ่งใน 100 ป้อมอาจยังไม่ดำเนินการทั้งหมด เบื้องต้นเน้นป้อมที่มีความจำเป็นก่อน โดยจะสำรวจพื้นที่ต้นทาง-ปลายทาง ป้อมปล่อยรถเมล์ที่มีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก และเป็นจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ล้อ-ราง-เรือ เช่น ป้ายรถเมล์หน้าสวนจตุจักร เป็นต้น และมีความเหมาะสมในการดำเนินการ เพราะในแต่ละพื้นที่จะมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นการออกแบบป้อมจะมีขนาดแตกต่างกันไปตามพื้นที่ และความเหมาะสม จากนั้นจะสรุปจำนวนป้อมที่ดำเนินการ และงบประมาณที่ใช้ปรับปรุงป้อมปล่อยรถเมล์ เพื่อทำแผนดำเนินการต่อไป

สำหรับการเลือกนำร่องติดตั้งป้อมปล่อยรถเมล์ที่เกาะพหลโยธิน อนุสาวรีย์ชัยฯ เนื่องจากมีปริมาณการเดินรถที่หนาแน่น และมีประชาชนใช้งานจำนวนมาก เพราะอนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างรถเมล์ รถตู้โดยสาร และ รถไฟฟ้าบีทีเอส ปัจจุบันมีรถเมล์ ขสมก. ให้บริการผ่านอนุสาวรีย์ชัยฯ 35 สายทาง เช่น สาย 26 มีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยฯ, สาย 510 มธ.ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ และ สาย 522 รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ ให้บริการ 6,500 เที่ยววิ่งต่อวัน มีผู้โดยสารใช้บริการราว 200,000 คนต่อวัน จากจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถ ขสมก. อยู่ที่ 700,000 คนต่อวัน

ป้อมปล่อยรถเมล์ใหม่นี้จะเป็นตู้สี่เหลี่ยม มีความสูง 2.65 เมตร กว้าง 2.15 เมตร สีน้ำเงิน-เขียว ซึ่งเป็นสีประจำองค์การ ภายในตู้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ (แอร์) มีระบบไฟฟ้าไว้บริการพนักงานสำหรับการทำงาน ส่วนด้านนอกตู้จะมีหน้าจอ LED ขนาด 32 นิ้ว เพื่อแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการเดินรถเส้นทางที่ผ่านยังป้อมปล่อยรถเมล์ เช่น มีรถเมล์สายไหนผ่านบ้าง อีกกี่นาทีรถจะถึงป้าย เพื่อให้ประชาชนบริหารจัดการเดินทางได้ ใช้กันแดดกันฝน และมีไฟฟ้าแสงสว่างเวลากลางคืน เพื่อให้มีความสะดวก และปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้บริการระบบขนส่งสาธารณะตามนโยบายกระทรวงคมนาคม

ป้อมปล่อยรถเมล์นี้จัดทำขึ้นใหม่ เพื่อใช้ทดแทนป้อมปล่อยรถเมล์เดิม ซึ่งจะเป็นลักษณะป้อมที่เปิดโล่งทุกด้าน มีหลังคาคลุม ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแต่อย่างใด สภาพทรุดโทรม เก่าแก่ ผุพัง เพราะใช้งานไม่ต่ำกว่า 20 ปี พนักงานไม่สามารถใช้หลบแดดหลบฝนได้ และไม่เอื้ออำนวยต่อการให้บริการ เนื่องจากจะมีประชาชนมักจะสอบถามเส้นทางรถเมล์อยู่ประจำ รวมทั้งขาดแคนเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานเวลากลางคืน ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ทำให้พนักงานทำงานอย่างยากลำบาก