ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าวงการบันเทิงร้อนแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับเรื่องราวดราม่าของวงการลิเก ที่เรียกว่าหยุดทุกกระแสให้มาสนใจทันที งานนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็ไม่พ้นสายตาของ “ชาวบ้าน 1/4 แยก 8” แบบอิชั้นหรอกค่ะ เพราะอิชั้นฉันนั้นมันตัวแม่ ตัวมัม จะให้แฉเบาๆ คงไม่ได้ งั้นตามมาค่ะ มาชำแหละเรื่องนี้กัน

ปูเรื่องก่อนเนอะ เผื่อใครไม่ได้ตาม คืองี้จ้า มันเป็นดราม่าของลิเกสาวชื่อดัง “นุ่น-เนตรชนก เพชรวิเชียร” หรือที่รู้จักในชื่อ “นุ่น ดำดง” หลังจากที่ได้ประกาศลาออกจากคณะลิเก “แบงค์-ศรราม น้ำเพชร” กลางโซเชียล แบบที่หลายคนตกใจ โดยนุ่นได้เผยสาเหตุในไลฟ์สดว่า “ตอนที่ทุกอย่างมันเริ่มตึงจัดแล้ว หนูก็ร้องไห้ เพราะหนูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือเป็นเพราะหนูบกพร่อง หรือเป็นเพราะหนูอะไรอย่างงี้ หนูเลยพยายามปรับโดยที่ไม่รับงานไม่รับอะไร หนูพยายามอยากเล่นเหมือนเดิม อยากทำให้มันเหมือนเดิม คือทั้งโรงมันไม่ได้คุยจอย จากที่เคยคุยจอยกัน โดยปกติมันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แต่อันนี้คือหัวหน้าเลยที่ผ่านมา รู้สึกอึดอัดและไม่สนุก จึงรู้สึกว่าทำงานลำบาก โดยเล่นลิเกไปเรื่อยๆ ก่อน หนูคิดไปเองว่าเขาจะตึงกับเรา เพราะเรามางานช้า ที่เราบกพร่อง ไม่ได้มาออกแขก ไม่ได้มารำ หัวหน้าเลยตึงกับเรา หลังจากนั้นจึงเข้าไปคุยกับทางหัวหน้า เพราะไม่อยากมีเรื่องค้างคาใจ ซึ่งแบงค์บอกกับนุ่นว่า มีคนมาเล่าให้ฟัง ส่งมาให้ดูเรื่องคู่จิ้น นุ่น-แบงค์ ซึ่งตัวแบงค์ก็ไม่ได้ห้ามอะไร แต่พอเยอะขึ้นเรื่อยๆ แบงค์ก็มองว่าทำไมนุ่นถึงนิ่งและไม่พูดอะไร หรือว่านุ่นโอเคกับเรื่องด้อมคู่”

งานนี้พอมีเรื่องดังกล่าวออกไป นักข่าวเขาก็ไปทำข่าวและพยายามขุดคุ้นต้นตออะไรต่างๆ มากมายทั้งสองด้านออกมาให้แฟนๆ รู้และพิจารณากันเอาเองว่าจะเชื่อใคร แต่ก็อย่างที่บอก แฟนคลับใคร เขาก็รักและเชียร์คนนั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าเรื่องนี้ ทั้งศรรามและนุ่น โดนด่ายับทั้งคู่ ซึ่งหลายคนก็อย่างที่รู้กัน ขาเผือกมันหยุดไม่ได้ ทางผู้สื่อข่าวเราก็เลยโทรฯ ไปหาสองฝ่าย ซึ่งแวบแรกของสาวนุ่นนั้น ผู้จัดการก็บอกว่าไม่สะดวกตอบ น้องสภาพจิตใจยังไม่ได้ และขอร้องไม่อยากพูด ก่อนจะบอกให้เราวางสายไป ใช่ค่ะ! ชั้นวางสายไป และก็คันปากอยากเมาท์เลยต่อสายไปหาฟากของศรราม น้ำเพชรกันบ้าง แวบแรกอีกเช่นกัน เขาไม่อยากพูด เห็นพี่นักข่าวบอกงั้น แต่ได้ใจความสั้นๆ แบบตรงไปตรงมา แบบคิดตามได้ คิดต่อได้ว่า “จริงๆ ดราม่าที่เกิดขึ้น ขอบอกก่อนว่าไม่มีอะไรในกอไผ่นะ เรื่องราวไม่มีอะไรเลย คือเหมือนมันเป็นเรื่องที่คนสนใจ แต่เดี๋ยวแบงค์จะออกมาตอบแล้ววันที่ 7 พ.ค. นี้ น้องมีอีเวนต์น่าจะพูดทีเดียวจบ คือน้องเองไม่ได้มีอะไรเลย และข่าวที่ออกมาอะไรต่างๆ ไม่ได้กระทบกับงานของแบงค์เลย คิวน้องก็ยังแน่นและยาวไปหลายเดือนเหมือนเดิม”

“ส่วนเรื่องนุ่น เอาจริงๆ น้องอยู่กับคณะมา 7-8 ปีเลย เราอยู่กันแบบครอบครัว ก็ไม่มีอะไรเลยนะ ไม่มีดราม่า แต่ที่น้องออก ก็เป็นเรื่องปกติ เหมือนเรามีบริษัทและพนักงานลาออกแค่นั้นเลย แต่ถามว่าน้องลาออกไปไหน ก็อย่างที่บอกอ่ะค่ะ คงไปใช้เงิน เพราะน้องก็งานเยอะ แต่ถ้าที่คนพูดว่า น้องนุ่นไปเปิดคณะใหม่ไหม อันนี้ไม่ทราบเลยค่ะ พี่ไม่ได้ดูแลน้องนุ่น ดูแค่น้องแบงค์ อีกอย่างนะ พี่ทำงานกับน้องแบงค์มานาน แบงค์เป็นคนที่ไม่เคยว่าร้าย กล่าวร้ายใครเลย น้องน่ารักมาก ดังนั้นเรื่องนุ่น น้องไม่ได้มีการพูดอะไร”

จากนั้นพอนำเสนอข่าวไป ก็ตามรูปแบบเดิม แฟนๆ ของสองฝ่ายมาตีกันยับผ่านคอมเมนต์ของเพจเรา ทำเอาหลายคนยิ่งมอง “ศิลปิน” ทั้งสองคนในมุมที่มีด้าน “ลบ” มากขึ้น ซึ่งทำให้แฟนๆ บางส่วนที่เป็นกลาง ที่กลางจริงๆ ก็วอนขอให้จบ อย่าดราม่าหน้าไมค์กันอีกเลย น้องๆ จะถูกมองแย่สองฝ่าย

ต่อมาเรื่องราวมันก็ดันร้อนแรงไปอีก เมื่อ “เนส ประกายเพชร” นางเอกลิเกประจำคณะของศรราม ก่อนที่จะมีด้อมที่รักศรรามและนุ่นประกาศลาออกจากคณะศรรามอีก ทำให้หลายคนยิ่งพากันมองว่า คณะศรราม น้ำเพชร คงถึง “วิกฤติหนัก” ครานี้แน่นอน เพราะไม่มีนางเอกแล้ว งานนี้ศรรามจะทำยังไง และศรรามเองจะออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่ายังไง ซึ่งศรรามคงรู้ว่าไม่อาจต้านทานกระแสดราม่าได้ เลยจัดหนักประกาศแบบหล่อไปว่า วันที่ 7 พ.ค. นี้ พบกันงานอีเวนต์หนึ่ง และนัดสื่อรอแจงเรื่องนี้เลย ทำเอาหลายคนรอคอยและรอนำเสนอข่าวของแบงค์อย่างมากมาย

จริงๆ เรื่องนี้แม้ยังไม่ได้ฟังคำตอบของศรรามนะ ก็บอกตรงๆ ว่าพอจะเดาออก ว่า “ตอนจบ” ของเรื่องนี้จะลงเอยที่อะไร ไม่ว่าจะนุ่นหรือศรรามจะเคลื่อนไหวอะไรอีก ก็บอกเลยว่า “ได้ไม่คุ้มเสีย” ซึ่งยิ่งเงียบก็ยิ่งจะดีกับทุกฝ่ายนะ และก็อย่างที่หลายคนเตือน คนรอบข้างของทั้งคู่แหละว่าเงียบเถอะ หยุดออกมาแฉ เพราะไม่ใช่แค่น้องๆ สองฝั่งดูไม่ดี แถมตัวคนพูดเองก็จะพลอยถูกดราม่าไปด้วย จะว่าไปเรื่องนี้มีให้เห็นกันมาตลอดในวงการบันเทิงว่า “ยิ่งแก้มันจะยิ่งแย่” ดังนั้นถ้าเลือกที่จะ “ไม่คุยกันหลังไมค์แล้ว” ก็หวังว่าหน้าไมค์จะอย่าดราม่าเพิ่ม เพราะก็อย่างที่พูดมาทั้งหมดแหละ ไม่มีใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ มีแต่คนเอือม หยุดเถอะก่อนสาย อมิตพุทธ

——————————

คอลัมน์ “คันปากอยากเมาท์”

โดย “ชาวบ้าน 1/4 แยก 8”