เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ดร.อรรถพล สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สกศ. ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน กสทช. กรมสรรพากร เพื่อพิจารณาแนวทางลดภาระค่าใช้จ่ายสถานศึกษาผ่านกลไกและมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ ที่เหมาะสมร่วมกัน โดยพบว่าค่าไฟฟ้าเป็นภาระค่าใช้จ่ายของสถานศึกษาทุกขนาดและจำเป็นต้องเร่งหาแนวทางลดภาระ เพราะการลดภาระค่าใช้จ่ายของสถานศึกษาจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อให้สถานศึกษาสามารถพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาได้อย่างแท้จริง
เลขาธิการ สกศ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ที่ประชุมดังกล่าว ได้สรุปเป็นข้อเสนอเบื้องต้น ดังนี้ การลดค่าไฟฟ้า โดยการแยกหมวดค่าไฟฟ้าฐานสำหรับการศึกษาเป็นการเฉพาะ การสนับสนุน โดยแยกค่าไฟฟ้าออกจากเงินอุดหนุนรายหัว การเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ส่งผลต่อค่าไฟฟ้า หรือให้สถานศึกษาอาจใช้พลังงานทดแทน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ผ่านการติดตั้งโซลาร์เซลล์ รวมถึงการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนของกระทรวงพลังงาน เพื่อได้รับคำแนะนำในการใช้พลังงานในสถานศึกษา ซึ่งในวันที่ 8 พ.ค. นี้ ตนจะหารือร่วมกับฝ่ายนโยบายของกระทรวงพลังงานอีกครั้ง และยื่นข้อเสนอแยกหมวดค่าไฟฟ้าฐานสำหรับการศึกษา เพื่อผลักดันไปสู่การพิจารณาปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ต่อไป
“นอกจากนี้ ยังมีมาตรการจูงใจในการเพิ่มการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ผ่านมาตรการทางภาษี เช่น การจัดทำกฎหมายเฉพาะเพื่อรองรับการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมในกรณีการสนับสนุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ หรือ กล้องวงจรปิด สำหรับสถานศึกษา รวมทั้งการส่งเสริมให้สถานศึกษาเข้าร่วมระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร เพื่อเพิ่มช่องทางและดึงดูดจากภาคเอกชนด้วย จากข้อเสนอเหล่านี้ สกศ. จะศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ และผลักดันให้เกิดเป็นข้อเสนอแนวทางการลดภาระค่าใช้จ่ายสถานศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาที่เหมาะสม และมีผลบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” ดร.อรรถพล กล่าว
