เมื่อวันที่ 7 พ.ค. จากกรณีนายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ หรือ กพร. พร้อมด้วย นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และคณะ ได้เข้ามาตรวจสอบการขนย้ายกากแคดเมียม ที่โรงหลอมภายในซอยกองพนันพล ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังจากต้องหยุดชะงักลงเพราะเกิดปัญหาขึ้นที่ จ.ตาก โดยวานนี้ทางทีมขนส่งได้ใช้รถพ่วงแบบตู้คอนเทเนอร์ ยาว 13 เมตร ซึ่งน้ำหนักของตัวรถรวมแกกแคดเมียมต้องไม่เกิน 50.5 ตัน ทั้งนี้ น้ำหนักรถพ่วงพร้อมตู้คอนเทเนอร์ น้ำหนักประมาณ 20.9 ตัน ทำให้น้ำหนักบรรทุกกากแคดเมียม ประมาณคันละ 25-30 ตัน

ล่าสุดวันนี้ ขบวนรถขนกากแคดเมียมครั้งที่ 2 ที่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะการบรรทุกโดยใช้รถเทรเลอร์ 8 คัน บรรทุกตู้คอนเทเนอร์ โดยรถ 1 คัน จะบรรทุกได้ 18 ถุงบิ๊กแบ็กหรือประมาณ 25-30 ตัน ซึ่งจะมีกากแคดเมียมที่ขนมาที่ จ.ตาก รอบ 2 นี้ มีจำนวน 147 ถุง น้ำหนักรวม ประมาณ 221.54 ตัน ใกล้เคียงกับการขนครั้งก่อนได้เดินทางมา ถึง บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่เลขที่ 94 หมู่ที่ 1 ถนนพหลโยธิน กม.409-410 ต.หนองบัวใต้ อ.เมืองตาก จ.ตาก ซึ่งเป็นโรงงานกักเก็บกากอุตสาหกรรมแคดเมียม เป็นต้นทางของการขนสารแคดเมียมไปที่ จ.สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ โดยได้ทำการขนย้ายนำกลับมายังแหล่งต้นทาง โดยมีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำและปิดท้ายขบวนมา

ทั้งนี้ การดำเนินการขนย้ายลงจากตู้คอนเทเนอร์ เริ่มดำเนินการตั้งแต่เวลา 10.00 น. พนักงาน บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ได้ใส่ชุด PPE เพื่อป้องกันสารพิษ โดยก่อนเริ่มดำเนินการ มีการประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจ ในการเคลื่อนย้ายในทุกขั้นตอน โดยมีคณะทำงานของจังหวัดตาก เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดตาก นักวิชาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. และตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลอย่างใกล้ชิด

จากนั้นการเคลื่อนย้ายได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนที่วางไว้ โดยใช้รถโฟล์คลิฟท์ จำนวน 2 คัน ขับขึ้นไปบนตู้คอนเทเนอร์ โดยมีทางลาดเป็นสะพานเหล็ก ให้รถโฟล์คขับขึ้นไป แล้วจึงค่อยๆ ยกถุงบิ๊กแบ็กถอยกลับลงมานำมาเคลื่อนย้ายวางเรียงไว้บนบรรทุกขนาดกลางจัดเรียงได้ รอบละ 8 ถุง จากนั้นก็คลุมผ้าใบอย่างมิดชิด แล้วจึงขับนำเข้าไปไว้ในโรงพักคอย แล้วจึงใช้เครนยกจัดเรียงซ้อน 4 ชั้น ในแต่ละแถว เมื่อครบจะนำผ้าใบคลุมปิดทับ เพื่อกันน้ำฝนชะล้าง

ด้านนายศุโรฒ พรมทับ ชาวบ้านหมู่ที่ 3 บ้านคลองห้วยทราย ต.หนองบัวใต้ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งมีบ้านอยู่ห่างจากพื้นที่อาคารพักคอย และบ่อกักเก็บ ประมาณ 500 เมตร เปิดเผยว่า ไม่ว่าทางราชการจะยืนยันว่า อาคารพักคอยจะมีความปลอดภัย ระหว่างที่รอการซ่อมหรือสร้างบ่อกักเก็บสารแคดเมียม แต่นั่นก็เป็นไปในส่วนของราชการ ชาวบ้านไม่มีอำนาจในการตัดสินใจว่าทำได้หรือไม่ได้ เพราะในส่วนของชาวบ้านเรา ไม่มีความมั่นใจในสวัสดิภาพความปลอดภัยต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในส่วนของภาคประชาชน ตอนนี้ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง (พิษณุโลก) ในกรณีที่ชาวบ้านไม่เห็นด้วยที่จะขนย้ายกากแคดเมียมมายังอาคารพักคอย หรือโรงพักคอยที่ไม่สมบูรณ์ ที่ยังมีหลายจุดที่ชาวบ้านกังวลอยู่ในส่วนนี้ วันนี้เวลา 13.00 น. ศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลก ได้นัดไต่สวน หลังจากนี้คำวินิจฉัยเป็นเช่นไร ก็ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดที่ชาวบ้านต้องยอมรับต่อไป