สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ว่า นายแกรนต์ แชปป์ส รมว.กลาโหมสหราชอาณาจักร กล่าวกับสภาสามัญว่า รัฐบาลลอนดอนมีตัวบ่งชี้ถึงการแฮกระบบบัญชีเงินเดือนของผู้ทำสัญญา ที่ใช้โดยกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบด้วยชื่อ, รายละเอียดธนาคาร รวมถึงที่อยู่ของทหารประจำการ และทหารผ่านศึกของสหราชอาณาจักรหลายหมื่นนาย

แม้แชปป์ส ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า จีนเป็นผู้รับผิดชอบการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้ แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธถึงการมีส่วนร่วมที่เป็นไปได้ ขณะที่สมาชิกสภาสามัญหลายคน กล่าวว่า การดำเนินการเช่นนี้ มีจุดเด่นที่พบได้ในปฏิบัติการของจีน

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นข้อพิสูจน์เพิ่มเติมที่ทำให้เห็นว่า สหราชอาณาจักร กำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น และพัฒนามากขึ้น” แชปป์ส กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ แชปป์ส ระบุว่า การสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ไม่มีข้อมูลใดถูกลบออกไป พร้อมกับเสริมว่า รัฐบาลลอนดอน “ดำเนินการทันที” เพื่อปกป้องข้อมูลเป้าหมายเหล่านั้น รวมถึงการปิดระบบให้เป็นออฟไลน์ด้วย

กระนั้น การที่สหราชอาณาจักรตั้งข้อสงสัยกับจีน ทำให้รัฐบาลปักกิ่ง ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างรวดเร็ว และโต้กลับอย่างโกรธเคือง โดยระบุว่า คำพูดของนักการเมืองชาวสหราชอาณาจักร ที่กล่าวโทษการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้ ว่าเป็นฝีมือของจีนนั้น “ไร้สาระอย่างยิ่ง” เนื่องจากจีนต่อต้าน และปราบปรามการโจมตีทางไซเบอร์ทุกประเภทอย่างแข็งขันมาโดยตลอด

ก่อนหน้านี้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐ กล่าวหาจีนเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับแคมเปญการโจมตีทางไซเบอร์ “ที่มุ่งร้าย” ทั่วโลก ในปฏิบัติการร่วมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งสหราชอาณาจักร กล่าวหาว่า จีนมุ่งเป้าไปที่หน่วยงานเฝ้าระวังของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และบัญชีอีเมลของสมาชิกสภาสามัญ แต่จีนโต้แย้งว่า ข้อกล่าวหาข้างต้นเป็น “การใส่ร้ายป้ายสี”.

เครดิตภาพ : AFP