ด้วยรูปร่างหน้าตา “Q5 55 TFSI e Quattro S Line Black Edition” ดุดันและคันที่นำมาทดสอบเป็นสีน้ำเงิน จึงดูสะดุดตามาพร้อมชุดแต่งภายนอกแบบเอสไลน์ แบล็ก อิดิชั่น ล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้วใส่ยาง 255/45R20 เรียกว่าพร้อมรองรับแรงกระแทกและยึดเกาะได้หนึบแน่นกับคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ดูดุดันมั่นใจยิ่งขึ้น

กระจังหน้าเอกลักษณ์ทรงรังผึ้งกรอบแปดเหลี่ยม ไฟหน้าและไฟท้ายแบบแอลอีดี มาพร้อมไฟเดย์ไทม์สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ด้านระบบความปลอดภัยนั้นออดี้จัดเต็มในสไตล์รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ทั้งระบบเบรกเอบีเอสพร้อมระบบกระ จายแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง เซ็นเซอร์หน้าหลังช่วยในการนำรถเข้าจอด กล้องมองหลัง เป็นต้น

ภายในห้องโดยสารตกแต่งแบบเอสไลน์ให้ความสะดวกสบายกับเบาะหนังไฟน์ แนปป้าพร้อมสัญลักษณ์เอสไลน์ เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ตปรับด้วยไฟฟ้า ที่มีระบบดันหลังและบันทึกตำแหน่งสำหรับฝั่งคนขับ ส่วนด้านหลังพับเก็บเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ 455-1,365 ลิตร นอกจากนี้ยังปรับระดับให้ผู้โดยสารผ่อนคลายระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะหลังคาพาโนรามิคเลื่อนเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า


ด้านวัสดุที่ใช้นั้นมีคุณภาพพรีเมียมนุ่มตัดเย็บประณีต เย็นฉ่ำกับแอร์ควบคุมอัตโนมัติแยกอิสระ 3 โซน ม่านบังแดดประตูซ้ายและขวา นอกจากนี้ระบบความบันเทิงจากเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen แบบ 3 มิติกระหึ่ม ส่วนแดชบอร์ดเน้นเส้นสายสวยคมที่รวมคุณสมบัติความหรูหรา พรั่งพร้อมด้วยจอแบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว จอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว พวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัดพร้อมด้วยแพดเดิ้ลชิฟท์


ด้านฟิลลิ่งการขับนั้นไม่ต้องสงสัยเพราะประสิทธิภาพความเร็วบนออนโรดนั้นสั่งได้ดั่งใจ ตามสเปก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 239 กม./ชม. ไม่เกินจริง ด้วยระบบส่งกำลังจากเกียร์อัตโนมัติ เอส ทรอนิค 7 สปีด ทำงานผสานกันอย่างลงตัวไม่สะดุดทำให้การขับช้า ขับเร็วรู้สึกรื่นรมย์ นอกจากนี้ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบควอตโทร อันเป็นเอกลักษณ์ของออดี้สร้างความมั่นใจยิ่งขึ้น


การเปลี่ยนเลนด้วยความเร็วบนเส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ที่หนาแน่นด้วยรถจำนวนมากและสภาพถนนที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซมต่าง ๆ กลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการเดินทาง แต่ทว่ากลายเป็นบททดสอบความนุ่มนวลของระบบช่วงล่างที่มีทั้งสปอร์ตแต่มีความนุ่มนวลพอประมาณไม่แข็งกระด้างจนคนนั่งหงุดหงิด ระบบกันสะเทือนแบบปรับได้อัตโนมัติพร้อมพาไปลุย ๆ แบบออฟโรดได้สบาย ส่วนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันที่มีปุ่มใช้งานสะดวกสบาย แม่นยำ การเก็บเสียงน่าพอใจด้วยการใช้วัสดุซับเสียงส่งผลให้การฟังเพลงจากเครื่องเสียงระดับพรีเมียมยิ่งเพลิดเพลิน

ด้านการขับนั้นยังมีระบบส่งกำลังที่ตอบสนองไม่ว่าจะเป็นแบบไดรฟ์ออโต หรือสปอร์ต ไดนามิก หรือเลือกเปลี่ยนเกียร์ด้วยแพดเดิ้ลชิฟท์ ทำงานน่าพอใจ นอกจากนี้ยังมีปุ่มอีวีที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% โดยคิว5 สามารถขับขี่แบบไร้มลพิษเป็นระยะทาง 54 กิโลเมตร ซึ่งตัวเลขต่าง ๆ ที่ระบุไว้เป็นมาตรฐานสำหรับรถที่ใช้งานทั่วไป แต่ถ้าเป็นคนเท้าหนัก ขับแรงอาจไม่ตอบโจทย์ แต่ที่แน่ ๆ คิว5 ปลั๊ก-อินไฮบริดคันนี้ขับสนุกแน่นอน.