เมื่อวันที่ 4 ต.ค. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศพดส.ตร.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รอง ผบช.ก.สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม. พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ปคม. นำกำลังจับกุมนายประเสริฐ สุขขี หรือ โกลัก อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1303/2559 ลงวันที่ 1 ก.ค.59 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นผู้แสวงหาประโยชน์จากบุคคล หรือเด็ก (บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี) โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น การบังคับใช้แรงงานหรือบริการอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ด้วยวิธีการฉ้อฉลหลอกลวง หรือใช้อำนาจโดยมิชอบซึ่งเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ และหมายจับศาลอาญาที่ 1659/2563 ลงวันที่ 29 ต.ค.63 ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินโดยจับกุมได้บริเวณถนนวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย

พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากราวเดือน มิ.ย.2559 เจ้าหน้าที่กรมการปกครองและเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นำกำลังเข้าตรวจค้นนาตารี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ อาบอบนวด ย่านรัชดาภิเษก หลังจากได้รับการร้องเรียนจากองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ แจ้งเบาะแสว่า มีการค้ามนุษย์ภายในสถานบริการดังกล่าว มีการเปิดลักลอบให้หญิงต่างด้าวอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาแอบแฝงค้าประเวณี ซึ่งจากการตรวจสอบพบผลหญิงบริการจำนวน 3 คน พบว่ามีการแอบแฝงค้าประเวณีจำนวน 121 คน เป็นต่างด้าวกว่า 90% ส่วนใหญ่เป็นสัญชาติเมียนมา (ไทใหญ่) โดยมีหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 8 ราย เป็นต่างด้าว 7 ราย คนไทย 1 ราย

ขอหมายจับเพิ่มคดี”นาตารี” ลูกชายโกลัก-พวก5คนร่วม

ต่อมาได้มีการดำเนินคดีกับ นายพงษ์อนัน ผู้ดูแลสถานบริการ ศาลตัดสินจำคุก 25 ปี 12 เดือน นายสมประสงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฯ ศาลตัดสินจำคุก 24 ปี 12 เดือน นายภานรินทร์ นายอะตาผะ นายลาภชูลาภ และบริษัท พี.เอส.เอส. เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ในความผิดตามกฎหมายหลายฉบับด้วยกัน คือ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282, 283 ทวิ, 287/1 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522, พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551, พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509, พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546

จากนั้นได้ส่งเรื่องให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาลฐานสมคบกันค้ามนุษย์โดยวางแผน แบ่งหน้าที่กันทำเพื่อเป็นธุระจัดหารับไว้ซึ่งเด็กหญิงอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ซึ่งเป็นชาวต่างด้าว 8 ราย เพื่อค้าประเวณีที่สถานอาบอบนวด ‘นาตารี’ โดย ‘นาตารี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์’ ที่เปิดขึ้นเป็นสถานอาบอบนวด และค้าประเวณี ซึ่งทุกคนให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิดจริงตามฟ้อง หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลยึดทรัพย์ร่วมกับ ปปง. เกือบ 1,000 ล้านบาท (ยึดทรัพย์ บ้านที่ดิน เงินสด จากขบวนการค้ามนุษย์)

ส่วนนายประเสริฐนั้น จากแนวทางการสืบสวนพบว่าเป็นเจ้าของสถานบริการอาบอบนวดนาตารี พร้อมพวก 3 ราย ประกอบไปด้วย นายธีรเดช สุขขี อายุ 39 ปี บุตรชายโกลัก น.ส.สมใจ หยวกแดง อายุ 30 ปี และนายสมหมาย พัดสิง อายุ 49 ปี ผู้ดูแลสถานประกอบการ ได้หลบหนีไป ต่อมา ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้ทำการสืบสวนหาข่าวพบว่า นายประเสริฐ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตบางกอกน้อย จึงนำกำลังจับกุมได้ในวันนี้

จากการสอบสวนนายประเสริฐ หรือ โกลัก ให้การปฏิเสธ ยังไม่ได้ให้การในชั้นสอบสวน และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาหลบหนี มีกระแสข่าวว่าโกลักหลบหนีออกนอกประเทศ ในส่วนนี้ไม่ยืนยัน ในส่วนผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนี 3 รายขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นแจ้งข้อหาก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป