สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ว่า จีนไม่อดทนต่อผู้เห็นต่างทางการเมือง และใช้เครื่องมือเทคโนโลยีที่ซับซ้อน และการข่มขู่ เพื่อปราบปรามผู้ประท้วงและนักเคลื่อนไหวภายในประเทศ ซึ่งการควบคุมกิจกรรมทางการเมืองของรัฐบาลปักกิ่ง กำลังขยายไปยังต่างประเทศมากขึ้น ในรูปแบบจอง “การปราบปรามข้ามชาติ”

รายงานของแอมเนสตี้ ซึ่งอ้างอิงการสัมภาษณ์นักศึกษาหลายสิบคนใน 8 ประเทศในยุโรป และอเมริกาเหนือ ระบุว่า นักศึกษาชาวจีนในต่างประเทศ รายงานว่าสมาชิกครอบครัวในจีน ได้รับคำขู่ หลังพวกเขาเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในต่างประเทศ รวมถึงการรำลึกเหตุการณ์อันนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อปี 2532

“การคุกคามที่เกิดขึ้นกับสมาชิกครอบครัวในจีนแผ่นดินใหญ่ มีทั้งการเพิกถอนหนังสือเดินทาง, การไล่ออกจากงาน, การขัดขวางไม่ให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และผลประโยชน์หลังเกษียณ หรือแม้แต่การจำกัดเสรีภาพทางร่างกายของพวกเขา” แอมเนสตี้ ระบุเสริม

นอกจากนี้ นักศึกษาหลายคนยังกล่าวว่า พวกเขาถูกบล็อกจากการโพสต์ และถูกเฝ้าติดตามบนแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ส่งผลให้พวกเขาต้องเซ็นเซอร์ตัวเองในชั้นเรียน และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม รวมถึงเกิดปัญหาสุขภาพจิตต่าง ๆ ตั้งแต่ความเครียด และความบอบช้ำทางจิตใจ ไปจนถึงความหวาดระแวง และภาวะซึมเศร้า

อนึ่ง แอมเนสตี้ ระบุว่า การที่รัฐบาลปักกิ่งมุ่งเป้าไปที่กลุ่มนักศึกษา ก่อให้เกิดบรรยากาศของความหวาดกลัว ในวิทยาเขตหลายแห่งของมหาวิทยาลัยทั่วยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งส่งผลเสียต่อสิทธิมนุษยชนของนักศึกษา

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศของจีน ตอบโต้แอมเนสตี้ และมองว่ารายงานดังกล่าวเป็น “การใส่ร้ายที่มีเจตนามุ่งร้ายอย่างแท้จริง”.

เครดิตภาพ : AFP