จากกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแก้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้นำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 และให้ออกกฎกระทรวงอนุญาตให้นำกัญชาไปใช้ประโยชน์เฉพาะทางการแพทย์และสุขภาพ เท่านั้น ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนนิคมสมุนไพรสัมพันธ์ตะวันตก ฝากไปถึงรัฐบาลคิดดีแล้วหรือ ที่ลงทุนปลูกกัญชาทำถูกขั้นตอนของรัฐบาล สุดท้ายให้นำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 และให้ออกกฎกระทรวงอนุญาตให้นำกัญชาไปใช้ประโยชน์เฉพาะทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น การลงทุนเป็นพันล้าน วอนให้หันกลับมาศึกษาใหม่ ทางกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนนิคมสมุนไพรสัมพันธ์ตะวันตก เดือดร้อนหนักแน่หากไม่แก้ไข เราไม่ได้มองรัฐบาลใคร เรามองว่าเป็นรัฐบาลไทย และเราก็อยู่ภายใต้กฎหมายทุกประการ รัฐบาลทำแบบนี้เป็นเรื่องที่เศร้ามากๆ
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานบริหารนิคมอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์แห่งประเทศไทยและประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนนิคมสมุนไพรสัมพันธ์ตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า หากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแก้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้นำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 และให้ออกกฎกระทรวงอนุญาตให้นำกัญชาไปใช้ประโยชน์เฉพาะทางการแพทย์และสุขภาพนั้น เรื่องนี้มีผลกระทบเดือดร้อนหนักแน่นอน เพราะเป็นเครือข่ายใหญ่ ทุกอย่างทางการแพทย์ ก็ต้องกลับไปสู้เหมือนเดิม เพราะมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การนำกัญชาไปใช้รักษาโรค ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
ดังนั้นหากนายกฯ จะนำกลับไปก็ต้องมาแก้ข้อกฎหมาย ข้อบังคับใหม่ทั้งหมดอีก แต่ที่แน่ๆ เราผู้ปลูกกัญชากระทบแน่นอน แต่จะเป็นรูปแบบใด กลุ่มเครือข่ายรับได้ตามที่รัฐบาลไทยสั่งการณ์ลงมา ฝากรัฐบาลต้องมองย้อนกลับไปด้วยว่า ทำไมเครือข่ายต้องมาปลูกกัญชา ที่ปลูกเพราะรัฐบาลอนุญาตให้ปลูก การปลูกกัญชา ก็เป็นนโยบายของรัฐบาล จึงมาลงทุนทำการปลูกกัญชา การลงทุนในเรื่องการปลูกกัญชาไปกว่า 1 พันล้านบาท ตั้งใจเพื่อนำกัญชาไปเป็นพืชเศรฐกิจตัวใหม่เพื่อรักษาโรค แต่เมื่อนายกรัฐมนตรี จะนำกลับไป ก็ต้องมากำหนดว่าทิศทางจะไปอย่างไร เพราะเราลงทุนไปเพราะรัฐบาลเป็นผู้อนุญาตและส่งเสริมสนับสนุนให้เราทำเราก็ทำ เรื่องนี้ทางรัฐบาลก็แจกกัญชาไปจำนวนนับล้านต้น แล้ววันนี้มาบอกว่ากัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษ อย่างนี้ความเชื่อมั่นของรัฐบาลอยู่ตรงไหน ไม่ได้มองว่ารัฐบาลเป็นของใคร แต่ตนเองมองว่าเป็นรัฐบาลไทย อย่างนี้ประเทศไทยจะอยู่ได้อย่างไร
ถ้าหากมาเปรียบเทียบกัญชา กับ กาสิโน มันไม่ได้แตกต่างอะไรเลย รัฐบาลกำลังสนับสนุนให้มีกาสิโน อย่างนี้เราจะอยู่กันอย่างไร เส้นทางกัญชาไม่ได้แตกต่างกับกาสิโนแม้แต่น้อย ดังนั้นต้องหันมาควบคุมกันใหม่น่าจะดีกว่า การไปนำเข้าจากต่างประเทศเรื่องนี้ไม่น่าจะถูกต้องเท่าใดนัก ทางต่างประเทศเขาได้เปลี่ยนการนำกัญชาไปใช้เขากำหนดอายุเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง ทางกลุ่มผู้ปลูกกัญชาเขาก็มีการเคลื่อนไหวแล้วในเรื่องนี้ วันนี้ทางการแพทย์ยังไปไม่ถึงไหน โดนบีบทุกรูปแบบ หากมาเจอปัญหาอีกทุกอย่างเสียหายหมด
นายวิศารท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สุดท้ายฝากไปถึงรัฐบาลไทยให้มองปัญหาในทุกมิติ แล้วอยากให้มองกัญชา เทียบเคียงกับการทำบ่อนกาสิโน ซึ่งมันไม่ได้แตกต่างกันเลย อยู่ดีๆ ไม่ใช่เราจะขึ้นมาปลูกกัญชา รัฐบาลเป็นผู้อนุญาตให้เราปลูกเราก็ปลูก สุดท้ายวันนี้ท่านกลับมาบอกว่าเป็นยาเสพติด ท่านยังไม่ทราบเลยว่าการควบคุมจะปฏิบัติกันอย่างไร รัฐบาลออกมาประกาศเช่นนี้ทำให้กระแสการตลาดของเราผันผวนหมด ทุกวันนี้เราก็ขาดทุนกันอยู่แล้ว มาซ้ำเติมให้เราหนักไปกว่าเดิมมากยิ่งขึ้น จึงขอฝากวิงวอนไปยังรัฐบาลให้มองไปทุกมิติทุกๆ ด้าน ตนเองไม่ได้สนใจว่าเป็นรัฐบาลของใคร ถือว่าเป็นรัฐบาลของไทย ตนเองก็อยู่ภายใต้รัฐบาลของท่าน แต่ท่านก็ต้องหันมามองเราด้วยเช่นเดียวกัน