นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีเกิดกระแสรัฐบาลเตรียมประกาศการล็อกดาวน์บางพื้นที่ 14 วันว่า กรมการค้าภายในได้ประสานกับทางห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ให้จัดเรียงสินค้าสต๊อกเพิ่มในช่วงนี้เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะสินค้าที่มีความจำเป็น เช่น อาหารกระป๋อง ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเชื่อว่ามีปริมาณเพียงพอ  เพราะที่ผ่านมาประชาชนก็มีประสบการณ์ในการล็อกดาวน์อยู่แล้ว  นอกจากนี้ ภายในเดือน ก.ค.นี้  กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินโครงการรถโมบาย พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ลดค่าครองชีพ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 77 จังหวัด เพื่อเป็นทางเลือกในการซื้อสินค้าให้แก่ประชาชน 

นอกจากนี้ กรมยังได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เร่งออกตรวจสอบและติดตามร้านที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งและร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยได้เน้นย้ำให้ร้านค้าต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาหรือจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควรโดยเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.64 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 เกี่ยวกับโครงการละครึ่ง 13 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบตามข้อร้องเรียน หากพบการกระทำผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  

“ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดง ราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด หากประชาชนพบร้านค้าที่ฉวยโอกาสปรับราคาสินค้า หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งกรมจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ หากพบการกระทำผิดจริงจะดำเนินการคดีตามกฎหมาย  หากพบหลักฐานว่าร้านค้าใดจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควร จะดำเนินคดี ตามมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ปิดป้ายแสดงราคา จำหน่าย มีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท”