เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร จ.สมุทรสาคร สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) หรือ “สมเด็จธงชัย” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานเปิดการประชุมพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล และเลขานุการ ตามมติมหาเถรสมาคม เขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 (นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี สมุทรสาคร)

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กล่าวเปิดการประชุม ว่า การปกครองคณะสงฆ์จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดีงามนั้น เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ในทุกระดับ จำต้องให้ความเคารพ ให้ความเชื่อมั่น และปฏิบัติตามคำสั่งที่เป็นไปโดยชอบตามกฎหมาย และพระธรรมวินัย โดยถือเอาสายการบังคับบัญชาเป็นหลักประการสำคัญ ตลอดจนร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือหมู่คณะ เอาใจใส่งานคณะสงฆ์ทั้ง 6 ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานคณะสงฆ์ ดังนี้ ด้านการปกครอง ที่เป็นข่าวในทุกวันนี้ตามสื่อต่างๆ เนื่องจากเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ไม่เอาใจใส่ดูแลพระภิกษุสามเณรในการปกครองของตนเองเท่าที่ควร สงฆ์มีปัญหาแต่ไม่จบที่คณะสงฆ์ ดังนั้น เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์จำเป็นต้องเอาใจใส่เรื่องการปกครองสงฆ์เป็นหลักสำคัญ ระดับที่สำคัญ คือ เจ้าอาวาส ต้องสอดส่องดูแลพระภิกษุสามเณร ให้ประพฤติปฏิบัติตนตามกรอบพระธรรมวินัยให้เคร่งครัด ให้เรื่องร้องเรียนของประชาชนก็ดี เรื่องร้องเรียนระหว่างสงฆ์ด้วยกันก็ดี จบกันในระดับวัด หากเป็นไปไม่ได้ ให้เจ้าคณะตำบลพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามลำดับการปกครองคณะสงฆ์ และขอให้ยึดหลักพระธรรมวินัย กฎหมายบ้านเมืองเป็นสำคัญ พระสังฆาธิการต้องเป็นไม้บรรทัด ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก การคณะสงฆ์จึงจะสามารถดำเนินไปได้ด้วยความเรียบร้อยดีงาม

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กล่าวต่อไปว่า ด้านการศึกษา ให้เจ้าคณะผู้ปกครองเอาใจใส่เรื่องการศึกษาสงฆ์ คือ การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม และแผนกบาลี พระพุทธศาสนาจะเจริญและมั่นคงอยู่ได้ก็ด้วยการศึกษาพระไตรปิฎก พระพุทธศาสนามีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ คือ ปริยัติ คือ การศึกษาเล่าเรียน ปฏิบัติ คือ การลงมือทำ และปฏิเวธ คือ ผลเชิงประจักษ์ ดังนั้น ความเจริญทางการศึกษาสงฆ์ จะเป็นความมั่นคงของพระพุทธศาสนา ส่วนด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เน้นย้ำเรื่องการส่งเสริมให้สำนักปฏิบัติธรรมเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จัดให้มีหลักสูตรการวิปัสสนากรรมฐาน ตามหลักพระไตรปิฎก และจัดการปฏิบัติให้เกิดความต่อเนื่องให้เข้าถึงแก่นของพระพุทธศาสนา เพื่อให้เป็นที่พึ่งแก่พุทธศาสนิกชนที่มาประพฤติปฏิบัติ