จากเหตุการณ์ปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน เมื่อเวลาประมาณ 22.43 น. ของวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา บริเวณใต้แฟลตดินแดง จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ถูกยิงเข้าที่ขมับด้านซ้ายอาการสาหัส มีเลือดออกในสมองเฉียบพลัน ถูกส่งตัวมารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ แพทย์ผ่าตัดเอากระสุนออกแล้ว เบื้องต้นยังไม่รู้สึกตัว และต้องเฝ้าระวังการหายใจ ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

คฝ.ถูกยิงหัวใต้แฟลตดินแดงยังสาหัส เลือดออกในสมอง-ต้องเฝ้าระวังการหายใจ

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 7 ต.ค. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงความคืบหน้าการเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณถนนดินแดงและ ถนนวิภาวดีรังสิต จากการชุมนุมของกลุ่มผู้ก่อเหตุความวุ่นวายในจุดดังกล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 28 คน ในจำนวนนี้เป็นเยาวชน 2 คน ทั้งนี้ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมพื้นที่ในซอยต้นโพธิ์ และบริเวณด้านหลังแฟลตดินแดง มีเสียงปืนดังขึ้น และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.ต.ต.เดชวิทย์ เลทเท็สสัน ผบ.หมู่ กองกำกับการอารักขา 1 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจเพื่อเข้ารับการรักษาโดยด่วน ขณะนี้ทราบว่ายังมีอาการบาดเจ็บสาหัส ไม่ได้เสียชีวิตอย่างที่มีกระแสข่าวในก่อนหน้านี้

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นกระสุนดังกล่าวถูกยิงมาจากบุคคลใด เบื้องต้นยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการยิงจากอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการอย่างแน่นอน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนไม่ได้รับอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนเข้าไปในพื้นที่ระหว่างปฏิบัติการ โดยจะได้รับการตรวจสอบจากหัวหน้ากองร้อย ประเด็นดังกล่าวจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ตามที่มีการตั้งข้อสังเกตการณ์ในโลกออนไลน์ ส่วนกระสุนดังกล่าวจะมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมหรือมาจากบุคคลอื่นที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบหัวกระสุนที่เก็บได้จากบาดแผลของตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บก่อน

รอง ผบช.น.กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างการนำเศษกระสุนที่เก็บได้ไปตรวจสอบว่าเป็นลักษณะหัวกระสุนประเภทใด มีลักษณะเฉพาะของปากกระบอกปืนตรงกับฐานข้อมูลของผู้ครอบครองหรือคดีต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นหรือไม่ และจำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงและจุดเกิดเหตุเพื่อหาว่าผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าวเป็นบุคคลใด

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า กระสุนดังกล่าวอาจเป็นกระสุน R.I.P. หรือกระสุนหัวกระจาย ที่จำเป็นต้องใช้อาวุธปืนจริงยิงเท่านั้น ซึ่งจะเกินกำลังของอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุความวุ่นวายในพื้นที่ดินแดงนำมาใช้ เนื่องจากมีราคาแพง และหาได้เฉพาะบางแหล่งจำหน่ายเท่านั้น ขณะนี้จากการตรวจสอบยังไม่สามารถยืนยันในเรื่องดังกล่าวได้ ว่ากระสุนที่ใช้เป็นกระสุนประเภทใด เนื่องจากต้องรอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเศษกระสุนที่พบรวมถึงการเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุมาประกอบว่าจะเป็นกระสุนปืนประเภทใด ทั้งนี้ที่ผ่านมาในพื้นที่เกิดเหตุย่านแฟลตดินแดงและถนนวิภาวดีรังสิต พบว่ามีการใช้กระสุนจริงกับตำรวจ แต่ไม่พบกระสุนตามที่มีการแสข่าวในการชุมนุม ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดดังกล่าวเพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

โฆษก บช.น. กล่าวด้วยว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ส.ต.ต.เดชวิทย์ กำลังเข้าไปควบคุมพื้นที่ในจุดเกิดเหตุร่วมกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าจะมีการใช้ความรุนแรง หรืออาวุธหนักรุนแรง หรือมีเรื่องขัดแย้งกับบุคคลใด ซึ่งเรื่องดังกล่าวผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะพิจารณาเพิ่มอุปกรณ์ป้องกันให้กับตำรวจควบคุมฝูงชนทุกนายหลังสถานการณ์การใช้ความรุนแรงในพื้นที่มีมากขึ้น ทั้งนี้ มารดาของ ส.ต.ต.เดชวิทย์ ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่พอใจกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ที่ทำให้ลูกชายของตนเองต้องบาดเจ็บสาหัสจนถึงขนาดนี้ ซึ่งจะได้เข้าไปทำความเข้าใจกับมารดาและครอบครัวของผู้บาดเจ็บ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่