เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนหอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี (อบจ.ปัตตานี) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันแรกของการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ป้องกันโควิด-19 เข็มแรกให้กับกลุ่มนักเรียนอายุ 12 ปีขึ้นไป เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันและเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียน ซึ่งเป็นไปตามความสมัครใจที่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง บรรยากาศทั่วไปพบว่า ตั้งแต่เช้าและบ่ายมีเด็กนักเรียนทั้งชายและหญิง จากโรงเรียนเบญจมราชูทิศจังหวัดปัตตานี กว่า 2,000 คน เดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครอง เพื่อมารับวัคซีนเข็มแรกกันอย่างคึกคัก ขณะที่ผู้ปกครองบางรายยังคงความกังวล กลัวว่าจะเป็นอันตรายกับลูกหากรับวัคซีนไปแล้ว ซึ่งทุกคนได้มีเฝ้าดูแลลูกตลอดการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตาม ใน จ.ปัตตานี เด็กที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนก็สามารถเข้าเรียนได้ แต่ต้องควบคู่กับการเข้มงวดมาตรการป้องกันโรค และทางโรงเรียนจะมีตรวจเชื้อแบบเอทีเค (ATK) ทุกสัปดาห์
ขณะที่การดำเนินการฉีดวัคซีน ปรากฏว่า มีเด็กนักเรียนหญิง 1 คน หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ และระหว่างรอดูอาการ เกิดอาการวูบตกเก้าอี้ลงไปกับพื้น ทำให้ทุกคนต่างตกใจเป็นอย่างยิ่ง แพทย์จึงรีบเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนหามขึ้นวีลแชร์ไปห้องพักดูอาการ ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว ขณะที่เด็กบางรายหลังฉีดแล้วได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า แขนข้างฉีดมีอาการชา และเมื่อยเล็กน้อย ซึ่งภาพรวมทั้งหมดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นางกูโรสกานา ระเหม ผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่ง กล่าวว่า มีความกังวลเกรงว่าถ้าฉีดวัคซีนแล้วลูกจะเป็นอะไรหรือไม่ เพราะตนมีลูกเพียงคนเดียว ส่วนลูกก็ไม่ได้กังวลอะไรพร้อมที่จะฉีด มีเพียงตนที่ยังกลัว แต่จำเป็นต้องฉีด เพราะวันนี้มีแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก และมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นทุกวัน