เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ห้องประชุมโรงเรียนประชาภิบาล เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังสังเกตการณ์การนับคะแนนผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) สาย ค. เขตบางเขน ว่า กกต.ได้พิจารณาและมีมติสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่เพียงที่เดียว จากคำร้องคัดค้านการดำเนินการเลือก สว. ระดับอำเภอ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา คำร้องเข้ามายัง กกต. จำนวน 11 แห่ง ด้วยเหตุที่จำนวนบัตรกับจำนวนคะแนนไม่ตรงกัน ซึ่งบัตรในสาย ค. มีบัตร 84 ใบจากจำนวนผู้เข้ารอบจำนวน 21 คน โดยผู้สมัครได้รับบัตรคนละ 4 ใบ ผลการนับคะแนนใหม่ปรากฏว่าเป็นบัตรดี 81 ใบ และบัตรเสีย 3 ใบ ขณะที่การเลือกในวันที่ 9 มิ.ย.นััน นับคะแนนได้ 81 คะแนน ซึ่งเกิดจากการขีดคะแนนทำให้คะแนนหายไป 1 คะแนน ทำให้กลุ่มที่ 11 ได้คะแนนเพิ่มมาอีก 1 คะแนน แต่ไม่ส่งผลต่อลำดับผู้ที่เข้ารอบไปสู่การเลือกในระดับจังหวัด ย้ำว่าการให้นับคะแนนใหม่เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความชัดเจน
นายแสวง กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกระดับการเลือกทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัดและระดับประเทศ และยอมรับว่าเหตุการณ์นับคะแนนที่เกิดขึ้น เนื่องจากการขานหมายเลขระหว่างหมายเลข 11 และหมายเลข 17 มีความใกล้เคียงกัน อาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการรับฟังและขีดคะแนน หากผู้สมัครจะไปยื่นฟ้องร้องก็เป็นสิทธิ แต่จากที่ กกต. ได้ตรวจสอบเป็นความผิดพลาดจากการปฏิบัติงาน ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ทุจริตหรือการเลือกเสียหาย
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (15 มิ.ย.) ตนก็จะเดินทางไปตรวจการเตรียมความพร้อมการเลือก สว. ในระดับจังหวัด กรุงเทพมหานคร ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ขอเชิญชวนให้ประชาชนและสื่อมวลชนไปร่วมสังเกตการณ์การเลือกระดับจังหวัด โดยจะจัดเตรียมสถานที่ให้ติดตามอย่างใกล้ชิด

นายแสวง กล่าวย้ำว่า ตนขอย้ำถึงเครื่องมือของ กกต. ในการป้องกันการฮั้วเลือก สว. ซึ่งวันนี้เหลือเพียงกลไกตามมาตรา 77 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. โดย กกต. ได้ติดตามและมีข้อมูลว่าในวันรับสมัคร มีผู้ใดรับจ้างหรือไปจ้างคนลงสมัคร จากนั้นในวันเลือกระดับอำเภอ ได้นำมาพิจารณาว่ามีการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดในการลงสมัครหรือไม่ “แต่ถ้ามีมาตรา 36 ถ้าทำเกินการแนะนำตัวเหมือนแต่ก่อน ขอคะแนน แลกคะแนน หรือไปจัดตั้งมา ทำไม่ได้ แต่ตอนนี้ระเบียบถูกยกเลิกไป ก็เป็นสิทธิเสรีภาพของผู้สมัครที่จะทำ ตราบใดที่ไม่ขัดกับมาตรา 77”
นายแสวง กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอชี้แจงถึงกรณีบัตรประชาชนของผู้สมัคร สว.เกือบ 20,000 รายหลุดนั้น วันนี้ได้ทำหนังสือชี้แจงต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ว่า กกต. มีมาตรการแก้ไขเยียวยา ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเบื้องต้นแต่ยังไม่ได้เข้าสู่การครอบครองของสำนักงาน ยอมรับว่ามีข้อมูลหลุดจริงตามที่ได้ติดตามและมีข้อมูลอยู่ ส่วนจะหลุดในขั้นตอนไหนนั้นขอตรวจสอบก่อน เพราะหลังจากที่เกิดเหตุขึ้นก็ได้มีการแก้ไขทันที ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้สมัคร สว. บางคนรอไปเข้ารอบระดับประเทศนั้น เป็นเพียงการวิเคราะห์ ขาดความเป็นไปได้ เช่นที่สื่อมวลชนทำการวิเคราะห์ แต่ต้องดูว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเห็นว่าจากที่มีการวิเคราะห์ทั้ง 2-3 โพย ก็ไม่ใช่พวกเดียวกัน ต่างคนต่างมา แต่มาเกาะกลุ่มเดียวกัน หากตราบใดที่ยังไม่ผิดกฎหมายก็ไม่สามารถเอาผิดได้ และจะต้องสืบในทางลับต่อไปเพื่อรวบรวมข้อมูลไว้