ร่วมจัดงาน “LOVE PRIDE PARADE 2024” ในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 16.00-18.30 น. เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองส่งท้าย “Pride Month” ครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ด้วย “ขบวนพาเหรดยาวที่สุดในเอเชีย” รวมระยะทาง 6 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความรัก ความกลมเกลียว ความเท่าเทียม และความเสมอภาค เป็นการร่วมสนับสนุนยุทธศาสตร์ “ซอฟต์พาวเวอร์” ภายใต้แนวทาง “เศรษฐกิจสีรุ้ง” หนึ่งในเศรษฐกิจสร้างสรรค์
รวมถึงตั้งเป้าให้งานดังกล่าวสามารถสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็น “LGBTQIAN+ Friendly” ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่ม LGBTQIAN+ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลกในทุกปี เหล่านี้นับเป็นการแสดงพลังครั้งสำคัญ อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ทั้งในมิติเศรษฐกิจและสังคม ในขณะเดียวกัน ถือเป็นการปักหมุด “Pride Festival Destination” ในการผลักดันกรุงเทพฯ ขึ้นแท่นเป็นเมืองหลวงแห่งกิจกรรมและความบันเทิง หรือ “Entertainment Hub of Asia” เพื่อก้าวสู่การเป็นเจ้าภาพในการจัด “WORLD PRIDE 2030”
“แพทองธาร ชินวัตร” รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวในงานแถลงข่าวการจัดงาน LOVE PRIDE PARADE 2024 ว่า การนำเทศกาลไพรด์มาร่วมต่อยอด ผลักดันธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQIAN+ จะช่วยเพิ่มมิติของหมุดหมายการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่มีอยู่แล้ว สู่หมุดหมายใหม่คือ HUB OF ENTERTAINMENT ที่จะเป็นเสน่ห์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นหนึ่งยุทธศาสตร์ที่นำมาซึ่งความสำเร็จของประเทศ ในการเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว ดังนั้น การจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นการแสดงพลังแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนไทย ที่ให้ความสำคัญของความเท่าเทียมและความเสมอภาค ตลอดจนเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
“ศุภลักษณ์ อัมพุช” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด ในฐานะรองประธานภาคีเครือข่ายภาคเอกชน กล่าวว่า การจัดอีเวนต์ใหญ่ “LOVE PRIDEPARADE 2024” ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ มีไฮไลต์ขบวนพาเหรดยาวที่สุดในเอเชีย 6 กิโลเมตร เป็นการฉลองส่งท้ายเดือนแห่งเทศกาล PRIDE อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการผลักดันกรุงเทพมหานครให้แข่งขันได้กับเพื่อนบ้านในเอเชีย ซึ่งการก้าวสู่ฮับแห่งเอนเตอร์เทนเมนต์ เมืองหลวงแห่งกิจกรรมและความบันเทิงของเอเชีย เพื่อบรรลุเป้าหมายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ควบคู่กับการสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในการเป็น LGBTQIAN+ Friendly ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่ม LGBTQIAN+ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลกทุกปี
พร้อมผลักดันกรุงเทพฯ เป็นเจ้าภาพจัดงาน WORLD PRIDE 2030 เพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนประเทศไทยมากขึ้น นอกเหนือจากเทศกาลที่เป็นรู้จักกันดีแล้วอย่าง มหาสงกรานต์ เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ด้าน “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ททท. มีการวางแผนสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+ มาอย่างต่อเนื่องหลายแคมเปญ เนื่องจาก LGBTQ+ เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพและมูลค่าทางการตลาดสูง และกำลังได้รับความสนใจจากกระแสสังคมและกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ เทศกาลไพรด์จึงเป็นโอกาสในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็น “Pride Friendly Destination” และ “Tourism Hub” สำหรับ LOVE PRIDE PARADE 2024 ในครั้งนี้ จะเป็น
การแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ที่สามารถประชาสัมพันธ์ประเทศไทยสำหรับเทศกาลดังกล่าวได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนสนับสนุนให้กทม. เป็นศูนย์กลางเมืองแห่งท่องเที่ยวและเป็นที่หนึ่งในภูมิภาคเอเชียได้อย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ “แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ” ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า รัฐบาลคาดการณ์ว่าเทศกาลไพรด์ในครั้งนี้ จะเป็นหนึ่งในอีเวนต์ที่มีส่วนช่วยให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจไม่ตํ่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากคาดว่าจะมีประชาชนทั่วไป ชาวต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เข้าร่วมชมงานตลอดเส้นทางขบวน 6 กิโลเมตรกว่า 1 ล้านคน ตั้งแต่ย่านปทุมวัน ย่านสยาม ย่านราชประสงค์ ย่านเพลินจิต ย่านอโศก ย่านสุขุมวิท เส้นทางกรุงเทพฯ ที่เป็นเขตศูนย์กลางธุรกิจ การค้า การบริการ การพยาบาล วัฒนธรรม การศึกษา การทูต และศูนย์การค้าชั้นนำ
เชื่อว่า งานพาเหรดฉลองส่งท้ายเดือนไพรด์ LOVE PRIDEPARADE ครั้งนี้ จะเป็นงานพาเหรดที่แสดงออกซึ่งความรัก ความกลมเกลียว เป็นหนึ่งเดียวของคนไทย แสดงความเท่าเทียม ความเสมอภาค นอกจากเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ ที่สร้างเสน่ห์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยได้อย่างมหาศาลด้วย.