ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประธานนำคณะ ติดตามการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้เดินทางไปยังเรือนรับรอง หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปความคืบหน้าการดำเนินงานพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จ.เชียงใหม่ ในห้วงเวลาที่ผ่านมา โดยมีนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รอง ผวจ.เชียงใหม่ ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ

นายนิรัตน์ กล่าวว่า ในด้านการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ มีการขุดลอกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำในคลองแม่ข่าทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เก็บขยะและกำจัดวัชพืชตลอดจนสิ่งปฏิกูลต่างๆ ในคลองแม่ข่าอย่างสม่ำเสมอ รณรงค์ให้ประชาชนงดทิ้งขยะลงคลอง ขณะเดียวกันได้จัดทำฝายชะลอน้ำ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริมและในโครงการเกษตรวิชญา 720 ฝาย เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน ด้านการพัฒนาคุณภาพน้ำ ได้กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหา 3 ระยะ คือระยะเร่งด่วน มีการบังคับใช้กฎหมายควบคุม ควบคู่กับการแจกจ่ายเครื่องดักไขมันให้กับบ้านเรือนในชุมชน และซ่อมแซมท่อรวบรวมน้ำเสียในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม องค์การจัดการน้ำเสียจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมและก่อสร้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสียในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ในระยะยาว อบจ.เชียงใหม่ ได้ดำเนินการออกแบบรวบรวมน้ำเสียในพื้นที่ของแม่ข่าเชื่อมโยงกับระบบย่อยของแต่ละ อปท. ซึ่งจะมีการจัดทำข้อเสนอขอรับงบประมาณในการจัดทำระบบรวบรวมน้ำเสียและบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพต่อไป

ส่วนการปรับปรุงภูมิทัศน์สภาพแวดล้อมและพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง จ.เชียงใหม่ มีแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นพื้นที่อรรถประโยชน์ เป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนทำกิจกรรมกีฬาและนันทนาการ โดยได้ดำเนินการไปแล้ว 4 จุด ได้แก่ บริเวณชุมชนระแกง ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่, บริเวณบ้านมั่นคง ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม, บริเวณท่าน้ำพระนอน-ป่ารวก ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม และบริเวณบ้านท่อ ซอยโชตนา 22 รวมระยะทาง 2,355 เมตร ส่วนการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองนั้น ได้ดำเนินการสำรวจชุมชนริมคลองแม่ข่า 20 ชุมชน 1,822 หลังคาเรือน ประชากรกว่า 4,000 คน พบว่ามีการปลูกบ้านคร่อมคลอง 101 หลัง มีการประกาศใช้แผนและผังแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ริมคลองคาและลำน้ำสาขาโดยกำหนดพื้นที่นำร่องในการดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนริมคลองแม่ข่า 3 ชุมชนหลักคือ ชุมชนหัวฝาย-กำแพงงาม ชุมชนตะแกรง และกลุ่มคร่อมคลอง ซึ่งจังหวัดได้ดำเนินการจัดทำแบบบ้านพร้อมรายละเอียดและจัดทำร่างสัญญาเช่าที่ดินสำหรับพื้นที่นำร่องชุมชนหัวฝายกำแพงงาม จำนวน 39 หลังเสร็จเรียบร้อยแล้ว

จากนั้น พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ ได้นำคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมและติดตามการพัฒนาอ่างเก็บน้ำหนองเขียว ซึ่งได้มีการขุดอ่างเก็บน้ำจำนวน 3 บ่อ เพื่อใช้เป็นแก้มลิงกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ได้ไม่น้อยกว่า 130,000 ลูกบาศก์เมตร และเดินทางต่อไปยังสวนสาธารณะรถไฟ ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ ติดตามการปรับปรุงพื้นที่สวนสาธารณะที่รกร้างในอดีตจำนวน 62 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้เริ่มเข้ามาปรับปรุงพื้นที่เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 67 เพื่อให้เป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ รองรับการออกกำลังกาย และใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในพื้นที่ และเดินทางต่อไปยังโครงการก่อสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสียจุด PS10 เทศบาลนครเชียงใหม่ ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ติดตามผลการดำเนินงานในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำเสียเข้าสู่ระบบเฉลี่ย 22,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน