ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 15 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2567 เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง และนายสมศักดิ์ อนุราชเสนา ประจำสำนักพระราชวัง พิเศษ ระดับ 10 เป็นผู้เชิญนาฬิกาพระพิเชต ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระยาอนุกูลสยามกิจ อุปนิกษิตสยามรัฐ (ตันกิมจิ๋ง) เมื่อครั้งยังเป็นที่พระพิเทศพานิชสยามพิชิตภักดี กงสุลเยเนราลไทย ณ เมืองสิงคโปร์ น้อมเกล้าฯ ถวาย ที่ได้นำส่งไปซ่อมที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2565 เป็นระยะเวลากว่า 3 ปี เป็นมูลค่าซ่อมเท่าราคา 3 ล้านบาท และสังฆทานน้อมนำมาถวาย พระเดชพระคุณ พระพรหมวัชราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม พร้อมคณะสงฆ์รวม 5 รูป ณ พระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ยังได้โพสต์ข้อมูลอีกว่า พระยาอนุกูลสยามกิจ อุปนิกษิตสยามรัฐ เมื่อครั้งยังเป็นที่พระพิเทศพานิช กงสุลฝ่ายสยาม ณ สิงคโปร์ ผู้ทูลเกล้าฯ ถวายนาฬิกาพระพิเชต นั้น นามเดิม “ตันกิมเจ๋ง” หรือ “ตันกิมจิ๋ง” เป็นคนชาติจีน เข้าใจว่าเกิดเมืองไทยในรัชกาลที่ 3 บิดาของท่านชื่อว่า “ต๊กเฮง” ทำการค้าขายอยู่ในเมืองสิงคโปร์ และติดต่ออยู่กรุงเทพฯ ด้วย มีประวัติเบื้องต้น ตามที่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงศวรเดช ทรงพระนิพนธ์ไว้ว่า “ตันกิมจิ๋ง” ผู้นี้ เป็นบุตรจีน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังเด็กๆ ในเวลาก่อนได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทรงตั้งนามเอง โปรดให้มีแซ่เป็นแซ่ตัน (เหมือนแซ่ฝ่ายราชินิกูลรัชกาลที่ 4 และเป็นพระนามเดิมของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์นั้น) เมื่อตันกิมจิ๋งเจริญขึ้นแล้ว โปรดให้ออกไปศึกษาวิชา ณ สิงคโปร์แต่ชั้นแรก แล้วจึงโปรดให้เป็นกงสุลสยามที่นั่น เลยเป็นผู้มีโภคทรัพย์บริบูรณ์ด้วยชื่อเสียง

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดและไว้วางพระราชหฤทัยในพระพิเทศพานิช (ตันกิมเจ๋ง) คนนี้มาก และพระพิเทศพานิชก็เป็นกำลังสำคัญของพระองค์ในการติดต่อกับอังกฤษและสิงคโปร์ กิจการใดที่เกี่ยวข้องกับอังกฤษแล้ว ก็ทรงปรึกษาพระพิเทศพานิชเสมอเป็นนิตย์ตลอดมา ในส่วนพระองค์นั้น พระพิเทศพานิชก็เป็นตัวแทนของพระองค์ท่านในราชกิจต่างๆ ทั้งส่วนพระองค์ และส่วนที่เกี่ยวกับราชการบ้านเมือง ทางเมืองไทยจะติดต่อกันกับต่างประเทศ เช่น ยุโรป อเมริกา และจีน ก็ได้อาศัยพระพิเทศพานิช เป็นตัวแทนจัดการส่งจดหมายและติดต่อเป็นตัวแทนอยู่ ณ เมืองสิงคโปร์ตลอดมา ได้เป็นที่หลวงพิเทศพานิชสยามพิชิตภักดี ในรัชกาลที่ 4 แล้วก็เลื่อนขึ้นเป็น “พระพิเทศพานิชสยามพิชิตภักดี” ในรัชกาลนั้น เป็นกงสุลไทย ณ เมืองสิงคโปร์คนแรก ตามหนังสือตราตั้งลงวันที่ 21 ตุลาคม 2406 ครั้นรัชกาลที่ 5 ได้เลื่อนขึ้นเป็นพระยาอัษฎงคตทิศรักษา สยามประชานุกูลกิจ แล้วต่อมาก็เลื่อนบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็น “พระยาอนุกูลสยามกิจ อุปนิกษิตสยามรัฐ” กงสุลเยเนอราลสยาม ณ เมืองสิงคโปร์ ตามหนังสือตราตั้งกงสุลเยเนอราล ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2428

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับนาฬิกาพระพิเชตนี้ ตั้งอยู่ที่พระอุโบสถวัดราชประดิษฐฯ มีอายุมากกว่า 200 ปี นอกจากเป็นนาฬิกาบอกเวลาแล้ว ยังสามารถพยากรณ์อากาศ บอกอุณหภูมิ บอกวันที่ และข้างขึ้นข้างแรมได้อีกด้วย แต่นาฬิกาพระพิเชตได้หยุดทำงาน ไปเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ความทราบถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงโปรดให้นำส่งไปซ่อมที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2565 เป็นระยะเวลากว่า 3 ปีจึงแล้วเสร็จ ทำให้นาฬิกาพระพิเชต กลับมาทำงานได้ตามปกติอีกครั้ง
ขอขอบคุณ ภาพและข้อมูล เพจเฟซบุ๊ก วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม