องค์กร ADHD UK ซึ่งทำงานด้านดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคสมาธิสั้น หรือ ADHD (Attention Deficit Hyperactivity Disorder) ในอังกฤษประเมินไว้ว่าประชากรชาวอังกฤษประมาณ 2.6 ล้านคนป่วยเป็นโรคนี้
อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตก็คือผู้ป่วยจำนวนมากต้องทนทุกข์กับอาการป่วยอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลานานหลายปี กว่าจะได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคสมาธิสั้น ทำให้คนส่วนใหญ่มีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับโรคนี้และมักมองว่าผู้ป่วยโรค ADHD ไม่ได้ป่วย แต่เป็นเพียงคน “ขี้เกียจ” และ “โง่”
นี่คือประสบการณ์ที่ ลิเดีย เบอร์แมน คุณแม่วัย 46 ปีจากเฮิร์ตฟอร์ดเชอร์ เคาน์ตีของอังกฤษ ต้องพบเจอมาโดยตลอด ก่อนที่แพทย์จะวินิจฉัยได้ว่าเธอเป็นผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น
ก่อนหน้านี้ คุณแม่ลูกหนึ่งเชื่อว่าเธอเป็นคนที่บกพร่อง คุณสมบัติแย่ เนื่องจากเธอมีปัญหาการเสพติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย แต่เมื่อเธอไปพบแพทย์ประจำบ้านและได้พูดคุยปรึกษาเพื่อจัดการความรู้สึกหลังจากที่แม่ของเธอเสียชีวิตในปี 2563 เธอก็พบว่าตัวเองอาจป่วยเป็นโรคสมาธิสั้น
อาการของโรคปรากฏขึ้นระหว่างกระบวนทำความเข้าใจข้อมูลและวิธีรับมือกับอารมณ์ต่าง ๆ ของเธอ รวมถึงอาการสมองเบลอที่เธอเป็นอยู่ตลอดเวลา
อาการของโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่นั้นอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล แต่ก็จะมีอาการบางอย่างคล้ายกัน เช่น มีทักษะเรื่องการจัดระเบียบที่แย่มาก, ไม่สามารถตั้งสมาธิให้จดจ่อกับบางสิ่งบางอย่าง, จัดลำดับความสำคัญไม่เป็น, ขี้หลงขี้ลืม, ฉุนเฉียวง่าย
เบอร์แมนเผยว่าส่วนตัวเธอนั้นมีอาการหลงลืมเป็นประจำ และสมองของเธอมักจะกระโดดไปมาระหว่างการมีสมาธิดีเยี่ยมกับไม่มีสมาธิเลย กับสนใจหลายเรื่องในเวลาเดียวกัน
การปรึกษาแพทย์อย่างถูกต้องทำให้เธอเข้าใจพฤติกรรมตัวเองในที่สุดและเข้าใจว่าทำไมเธอจึงเรียนได้ไม่ดีนักตอนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา ซึ่งเธออธิบายว่าเป็นเพราะสมองของเธอทำงานไม่เหมือนคนทั่วไป
นอกจากนี้เธอยังพบว่าตัวเองทำงานเชิงสร้างสรรค์ได้ดีและเป็นคนแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดีมาก การทำความเข้าใจการทำงานของสมองและรูปแบบพฤติกรรมของตัวเองทำให้เธอจัดการชีวิตประจำวัน รวมถึงธุรกิจของเธอได้ดีขึ้น มองเห็นว่าควรและไม่ควรทำอะไร รวมถึงรู้จักปล่อยให้คนอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทนสิ่งที่เธอทำไม่ได้
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES