เพราะล่าสุด คาแรกเตอร์สุดฮิตอย่าง “ลาบูบู้” (Labubu) สัตว์ประหลาดน้อยตัวจิ๋วที่อยู่ในชุดกระต่าย ดวงตาใหญ่โต ปากกว้าง ฟันหยัก จากอาณาจักร POP MART ผลงานการออกแบบของ “Kasing Lung” (คาซิง ลุง) ศิลปินชาวฮ่องกง ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเทพนิยายในยุโรป ที่บินตรงจากปักกิ่งมาถึงไทยแบบตัวใหญ่ ๆ เป้ง ๆ เป็น ๆ ขยับได้ ไหว้ย่อได้ ก็ได้รับเสียงกรี๊ดไม่น้อยหน้ากัน

การมาเยือนของลาบูบู้ในครั้งนี้ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบวาระความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนครบ 50 ปี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมมือกับ POP MART จัดกิจกรรม Welcome Ceremony of LABUBU ภายใต้โครงการ “ลาบูบู้เที่ยวไทย”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. ร่วมกับ POP MART ดึงกระแส Pop Culture มาใช้เป็นกลยุทธ์ในการทำการตลาด โดยนำเสนอผ่านแนวคิด POPMART LABUBU X TAT IGNITE THAILAND ชูจุดเด่นในพื้นที่สู่จุดขายเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยลาบูบู้ตามกลยุทธ์ “5 Must Do in Thailand” ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ Must Eat อาหารไทย Must See โชว์ไทย Must Seek วัฒนธรรมไทย Must Buy ผ้าไทย และ Must Beat มวยไทย โดยให้ลาบูบู้เป็นเสมือนตัวแทนในการถ่ายทอดประสบการณ์การท่องเที่ยวอันน่าประทับใจ รวมถึงช่วยบอกต่อและเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวจีนเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในการออกเดินทางท่องเที่ยว

นอกจากการต้อนรับอย่างอบอุ่นตั้งแต่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งจัดการแสดงหุ่นละครเล็ก และมอบตำแหน่ง “Amazing Thailand Experience Explorer” แล้ว ระหว่างวันที่ 2–4 กรกฎาคม 2567 ลาบูบู้ในชุดไทยได้เดินทางถ่ายทำคลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยสื่อสารไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนเพื่อเชิญชวนให้เดินทางตามรอยด้วย

โปรแกรมการท่องเที่ยว “5 Must Do in Thailand” ของลาบูบู้ มีทั้งไปรับประทานอาหารซีฟู้ดสดใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ร้าน “Horsamut” Coastal Thai Cuisine ที่นำวัตถุดิบคุณภาพสูงสุดจากฟาร์มที่ดำเนินตามแนวทางความยั่งยืน และอาหารทะเลสด ๆ จากเรือประมงขนาดเล็ก ปรุงอาหารตามสไตล์เมืองชายฝั่งทะเลของไทยอย่างประจวบคีรีขันธ์ เผ็ดร้อนแบบอาหารใต้จากสุราษฎร์ธานี ละมุนลิ้นแบบจันทบุรีและตราด แถมด้วยวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีพระปรางค์วัดอรุณอยู่เบื้องหน้า ซึ่งจะสวยจับใจในช่วงเวลาเย็นของทุกวัน

นั่งรถตุ๊ก ๆ EV เที่ยวชมความสวยงามบริเวณ วัดพระแก้ว และ พระบรมมหาราชวัง ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและจากทั่วโลกต่างแวะเวียนมาชมความสวยงามและศิลปะไทยอันงดงาม พักผ่อนชิลชิล ด้วยการ นวดไทยที่วัดโพธิ์ แล้วต่อด้วยการเดินเล่นแหล่งชอปปิงยอดนิยมอย่าง สยามดิสคัฟเวอรี่ และ สยามสแควร์

แน่นอนต้องไม่พลาดการซื้อของที่ระลึกผลิตภัณฑ์จากฝีมือคนไทย ก่อนจะไปตื่นเต้นเร้าใจกับการชมศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทยที่ สนามมวยลุมพินี หนึ่งในสนามมวยที่มีประวัติยาวนาน มีการจัดการชกมวยทั้งมวยไทยและมวยสากล.