โรคข้อคือภัยเงียบที่ส่งผลต่อการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย โดยเฉพาะโรคข้อเข่าเสื่อมซึ่งพบได้มากในวัยกลางคนและผู้สูงอายุและมีแนวโน้มที่จะพบสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการที่ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัย
สาเหตุส่วนใหญ่ของภาวะข้อเข่าเสื่อมเกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวข้อตามกาลเวลา การใช้งานเข่าที่หนัก หรือผิดท่า น้ำหนักตัวที่มาก ปัจจัยทางพันธุกรรมหรือโรคประจำตัวที่มีผลกับข้อเข่า ผู้ที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อมมากๆ จะมีอาการเจ็บหรือปวดบวมที่ข้อ ข้อเข่าผิดรูปข้อฝืด หรือข้อติดทำให้เคลื่อนไหวข้อได้จำกัดและปฏิบัติภารกิจประจำวันต่างๆ ได้ไม่สะดวก

เนื่องในโอกาสวันโรคข้อสากล ซึ่งเป็นวันที่ 12 ตุลาคมของทุกปี ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมและข้อสะโพกเทียม โรงพยาบาลเมดพาร์ค ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวที่บ้านของผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมในช่วงการระบาดของ COVID-19 ที่สามารถช่วยลดอาการปวดของผู้ป่วยได้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมที่มีการรุนแรง ควรจะต้องดูแลตนเองให้ดีเพื่อประคับประคองสถานการณ์ให้สามารถดำรง ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  1. ต้องควบคุมน้ำหนักของตนให้ดี เพราะน้ำหนักร่างกายเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ภาวะอาการของโรคมีมากขึ้น
  2. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดการเสี่ยงต่อความทรุดของข้อมาก ๆ เช่น ท่าทางที่ต้องใช้การพับเข่ามาก ๆ การนั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธินั่งยอง หรือกระโดดหลายครั้ง สิ่งเหล่านี้ทำให้ข้อเสื่อมได้มากขึ้น
  3. ต้องบริหารกล้ามเนื้อให้ดี เช่น สำหรับข้อสะโพกควรบริหารกล้ามเนื้อต้นขา สำหรับข้อเข่าควรบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า
  4. ประคบข้อที่อักเสบด้วยความร้อน ครั้งละประมาณสิบนาทีจะช่วยผ่อนคลายอาการระบมอักเสบได้ และช่วยลดความเจ็บปวดลง

วิธีเหล่านี้สามารถช่วยประคองให้ข้อที่เสื่อม ยังพอจะสามารถใช้การต่อไปในชีวิตประจำวันได้เรื่อยๆ

วิธีสังเกตอาการของตนเองว่าถึงเวลาที่ควรเข้ามาพบแพทย์แล้วหรือยัง
หากความเจ็บปวดนั้นรบกวนชีวิตประจำวันเรามากขึ้น เช่น วันนี้เดินได้สิบก้าวมีอาการปวด และวันต่อไปมีอาการปวดเมื่อเดินได้ห้าก้าว เราช่วยเหลือตนเองในแต่ละวันลำบากมากขึ้น ต้องพึ่งคนอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ อาการเจ็บปวดนั้นไม่สามารถคลายปวดได้เอง หรือในระยะเวลาหนึ่งถึงสองอาทิตย์อาการไม่ดีขึ้นเลย หากมีอาการเหล่านี้ผู้ป่วยควรเข้ามาพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวินิจฉัยว่ามีภาวะอื่นหรือภาวะใดๆ ที่ทำให้เป็นเช่นนั้น

สามารถเข้ารับการผ่าตัดในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้หรือไม่

ในกรณีที่ผู้ป่วยที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อมที่เป็นระยะรุนแรงจนต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดสามารถเข้ารับบริการในโรงพยาบาลหรือคลินิกที่มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยของบุคลากรและผู้ให้การรักษาที่ควรได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกันทุกคน การแบ่งแยกพื้นที่ของโรงพยาบาลอย่างชัดเจนสำหรับการให้บริการผู้ป่วยในแต่ละประเภท และการคัดกรองที่เข้มงวด เช่นที่โรงพยาบาลเมดพาร์ค นอกจากมาตรการที่กล่าวมาข้างต้นผู้ป่วยที่จะเข้ามารับการรักษาโดยการผ่าตัดจะได้รับการคัดกรองตรวจภาวะความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงญาติและผู้ติดตามของผู้ป่วยก็จะได้รับการคัดกรองด้วยเช่นกัน นี่คือมาตรการที่โรงพยาบาลเมดพาร์คให้ความเชื่อมั่นว่าผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าข้อสะโพกเทียมจะได้รับการดูแลรักษาให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ทีมของโรงพยาบาลเมดพาร์คมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะรักษาผู้ป่วยโรคข้ออย่างครอบคลุม ด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์
ชำนาญการเฉพาะทางทางด้านโรคข้ออักเสบ แพทย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู นักกายภาพบำบัดทำให้สามารถเลือกการรักษาที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยได้อย่างครบวงจร ทั้งการรักษาแบบใช้ยา การรักษาภายภาพฟื้นฟู และการรักษาแบบผ่าตัด อีกทั้งยังมีเครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัย คอยช่วยในการตรวจวินิจฉัยโรคที่วินิจฉัยได้ยากให้สำเร็จ และช่วยในการผ่าตัดในเคสยากและซับซ้อน เพราะเป้าหมาย และลักษณะการใช้ชีวิตของผู้ป่วยแต่ละคนมีความ “แตกต่าง” กัน ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลเมดพาร์ค ซึ่งประกอบไปด้วยสหสขาวิชาชีพ จึงต้องร่วมออกแบบการรักษากับผู้ป่วยเพื่อให้ตอบโจทย์ความคาดหวังของทุกคน