เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมาศาลอาญามีคำสั่งในคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ในคดี คดีหมายเลขดำ อ.2799/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ นายศราวุธ หลงเส็ง ผู้ชุมนุม นปช. เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง, 215, 216  

กรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2550 แกนนำและแนวร่วม นปช. นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคน จากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่สนามหลวง ไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง

โดยก่อนหน้านี้ทนายความนายจตุพร ได้ยื่นประกันตัวเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 64 ซึ่งศาลไม่อนุญาต โดยให้เหตุว่า กรณีคดีที่จำเลยทั้งสองขอให้คดีนี้รอฟังผลคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว พฤติการณ์แห่งคดีจึงเปลี่ยนแปลงไป เมื่อข้อกล่าวหาในคดีนี้ เป็นข้อร้ายแรง มีอัตราโทษสูง ประกอบกับจำเลยที่ 1 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีอื่นมาแล้ว หากให้ปล่อยชั่วคราวไป อาจหลบหนีได้ ทั้งจำเลยที่ 1 ถูกจำคุกในคดีอื่นอยู่ในขณะนี้ การปล่อยชั่วคราวในคดีนี้จึงย่อมไม่เป็นประโยชน์ จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1ให้ยกคำร้อง แจ้งคำสั่งให้จำเลยที่ 1 และนายประกันทราบเป็นหนังสือโดยเร็ว

ต่อมามาวันที่ 11 ต.ค. 64 ทนายความได้ยื่นขอประกันอีกโดยศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาต เนื่องจากพฤติการณ์แห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ขณะนี้จำเลยยังต้องขังอยู่ กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง คืนหลักประกัน โดยมีรายงานว่าทนายความเตรียมที่จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีบุกบ้าน พล.อ.เปรม เดิมนายจตุพรได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว แต่เมื่อวันที่ 8 ก.ค.64 ศาลฎีกามีคำสั่งให้นับโทษนายจตุพรในคดีที่ถูกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ฟ้องนายจตุพร ในความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 กรณีกล่าวหานายอภิสิทธิ์ประวิงเวลาในการทำความเห็นเสนอต่อสำนักราชเลขาธิการ เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2560 ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ให้จำคุกนายจตุพร 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้นับโทษคดีจำคุกนายจตุพรต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดง อ.4907/2555 (หมายเลขดำ อ.1962/2552) กรณีกล่าวหาเป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือดฆ่าประชาชน ทำให้นายจตุพรต้องกลับเข้าไปอยู่ในเรือนจำตามคำพิพากษาศาลฎีกา

นายจตุพรจึงให้ทนายความยื่นถอนประกันตนเองในคดีบุกบ้าน พล.อ.เปรม ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดี เนื่องจากวันต้องขังในคดีจะถูกนับควบคู่ไปกับคดีที่ศาลให้นับโทษจำคุกต่อจากคดีหมิ่นนายอภิสิทธิ์ เพราะถ้าหากสุดท้ายแล้วในอนาคตหากศาลพิพากษาจำคุกในคดีบุกบ้าน พล.อ.เปรม คล้ายกับแกนนำ นปช.ชุดแรกที่ถูกจำคุกและได้ปล่อยออกมาแล้ว นายจตุพรก็ยังสามารถหักวันต้องโทษจากกรณีที่เคยถูกคุมขังไปได้ มีผลให้วันที่จะต้องถูกขังลดน้อยลง

ต่อมามีรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะได้รับการปล่อยตัว ภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 28 ก.ค.64  และได้เข้ารับการอบรมโคกหนองนาโมเดลครบ 14 วันแล้ว และมีกำหนดปล่อยตัวในวันที่ 13 ต.ค.จึงให้ทนายความมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในคดีบุกบ้าน พล.อ.เปรม ซึ่งเคยถอนประกันตัวเองอีกครั้ง แต่ในครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมาศาลอาญาก็มีคำสั่งไม่อนุญาต