เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามปัญหาปากท้องของประชาชน ทั้งกลุ่มแม่ค้าและกลุ่มลูกค้าในตลาดสด เขตเทศบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี พบว่าบรรยากาศการซื้อขายตอนนี้ซบเซาลงอย่างมาก ร้านค้าใหญ่ๆ ต้องปรับตัวหารายได้เสริม ส่วนประชาชนบางรายต้องหาเก็บพืชผักสวนครัวมาขาย หรือแลกของกินแทน
โดยนางเกศินี บุญหนุน อายุ 49 ปี เจ้าของร้านค้าปลีกส่งสินค้าอุปโภคบริโภคร้านใหญ่ ในเขตเทศบาลหนองฉาง เปิดเผยว่า ตอนนี้ตลาดเงียบเหงาลงมากว่าครึ่งปีแล้ว ที่ร้านมีลูกค้ามาซื้อของน้อยลงทุกวัน จนทำให้ร้านต้องหารายได้เสริมด้วยการทำของกินขายที่หน้าร้าน มาทดแทนรายรับที่หายไป เพราะทุกวันนี้ลูกค้ามาซื้อของต่อวันเยอะสุดอยู่ที่ประมาณวันละ 6-10 คนเท่านั้น หนักสุดบางวันก็ไม่มีเลย ยอมรับว่าต้องปรับตัวรับมือหลายอย่างมากๆ เพราะลูกค้าก็ซื้อของกันน้อยลง เพราะต้องประหยัด แถมตอนนี้แม่ค้าก็มากกว่าลูกค้า เพราะคนไม่รู้จะทำอะไรก็ขายของกัน อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือปากท้องของรากหญ้า เพราะตอนนี้ลำบากกันมาก
ขณะที่ นางสายหยุด เย็นวัฒนา อายุ 56 ปี หนึ่งในกลุ่มลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้านค้าแห่งนี้ เปิดเผยว่า ตนเองนั้นปลูกถั่วขาย แต่ก็ต้องสู้กับค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น เพราะตอนนี้รายรับกับรายจ่ายมันไม่สมดุลกัน จึงทำให้ต้องหารายได้เสริมด้วยการเก็บมะนาวที่บ้านมาขายให้กับบรรดาแม่ค้าที่ตลาด เพื่อพอได้เป็นค่ากับข้าว ค่าของกิน อย่างวันนี้เอามะนาวมาขายแต่ที่ร้านยังไม่รับ ก็เลยขอแลกกับลูกชิ้น 5-6 ไม้ กลับไปแทน เพราะนำกลับไปบ้านก็จะเสียเปล่า หากเปลี่ยนอะไรได้ตอนนี้ก็อยากให้เปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจรากหญ้ามากที่สุด.