สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ว่า รัฐบาลลาวกำลังดำเนินการ แก้ไขปัญหาเงินกีบที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อซึ่งพุ่งสูงขึ้น และยังคงอยู่ เนื่องจากลาวยังไม่สามารถฟื้นตัว จากผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด-19
นายสุลิสัก ทำมะวง ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองระบบชำระเงินของลาว กล่าวว่า ธนาคารแห่งลาว (บีโอแอล) กำลังร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงภาคการท่องเที่ยว, เหมืองแร่ และการเกษตร เพื่อกระตุ้นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) และดึงดูดรายได้จากสกุลเงินต่างประเทศให้มากขึ้น
ขณะที่ความท้าทายทางการเงินของลาว มีผลมาจากทั้งปัจจัยภายนอก อาทิ การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงินของเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐ, แคนาดา และยุโรป และปัจจัยภายใน ได้แก่ ความต้องการสกุลเงินต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ในภาคการนำเข้าและการบริการ ตลอดจนการชำระหนี้ต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากการขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง
เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นจากร้อยละ 7.5 เป็นร้อยละ 8.5 ต่อปี เมื่อต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา และต่อมาได้ปรับเพิ่มเป็นร้อยละ 10 ต่อปี เมื่อต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อในลาวยังคงเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ร้อยละ 26.2 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 25.8 เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบปีจนถึงขณะนี้ รวมไปถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 229.28 ในเดือน พ.ค. เป็นร้อยละ 234.54 เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
ในแง่ของอัตราแลกเปลี่ยน เงินกีบมีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศหลัก โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐ, หยวนจีน และบาทไทย ธนาคารกลางและธนาคารพาณิชย์ของลาว ขายเงินดอลลาร์สหรัฐในราคาสูงกว่า 22,000 กีบ (ราว 35.34 บาท) เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนกับเงินบาท อยู่ที่มากกว่า 600 กีบ (ราว 0.96 บาท)
ด้านธนาคารพาณิชย์ขายเงินบาทในราคา 700 กีบต่อบาท (ราว 1.12 บาท) ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เป็นทางการ หรืออัตราแลกเปลี่ยนเงามีอัตราสูงกว่ามาก
การอ่อนค่าอย่างรวดเร็วของเงินกีบลาว เริ่มขึ้นเมื่อเดือน ส.ค. 2563 ซึ่งตรงกับช่วงที่ลาวเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เงินกีบมีมูลค่าเกือบ 3 เท่า เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ และสองเท่าเมื่อเทียบกับเงินบาทไทย ซึ่งในขณะนั้น ธนาคารท้องถิ่นขายเงินดอลลาร์สหรัฐในราคา 8,868 กีบ (ราว 14.24 บาท) และขายเงินบาทไทยในราคา 300 กีบ (ราว 0.48 บาท)
เพื่อรับมือกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน รัฐบาลลาวจะยังคงปิดร้านแลกเปลี่ยนเงินตราผิดกฎหมายในท้องถิ่นต่อไป ขณะที่ธุรกิจและร้านอาหารบางแห่งในจังหวัดต่าง ๆ และนครหลวงเวียงจันทน์ เริ่มรับเฉพาะเงินกีบสำหรับการทำธุรกรรมแล้ว เพื่อเพิ่มการใช้เงินกีบในลาว และทำให้ค่าเงินมีเสถียรภาพ
ด้านรัฐบาลลาวจัดตั้งคณะทำงานพิเศษ ซึ่งนำโดยนายก้องแก้ว ไชยสงคราม ประธานสถาบันสังคมศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ลาว เพื่อทำหน้าที่วิเคราะห์สาเหตุของเงินเฟ้อ และราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงการเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้อง และนำเสนอผลการวิจัยต่อรัฐบาลเป็นประจำ
ในการประชุมของคณะรัฐมนตรีลาว เมื่อไม่นานมานี้ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว สั่งให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และหยุดการอ่อนค่าของเงินกีบทันที ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรับมือกับความท้าทายทางการเงินของประเทศ ซึ่งบีโอแอลให้คำมั่นว่า จะมุ่งแก้ไขปัญหาผ่านการปรับปรุงนโยบาย
ทั้งนี้ ธนาคารเรียกร้องให้มีการส่งเสริมสินค้าที่ผลิตในประเทศ เพื่อลดการนำเข้าที่ไม่จำเป็น และเพื่อช่วยให้ค่าเงินกีบกลับมามีเสถียรภาพ.
เครดิตภาพ : AFP