สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ว่าคณะกรรมาธิการต่อต้านการผูกขาดทางการค้าของคณะกรรมาธิการยุโรป ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ปรับบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ของเยอรมนี 2 แห่ง ฐานสมคบคิดกันปิดกั้นการพัฒนา และการแข่งขันด้านการพัฒนาเทคโนโลยีลดการปล่อยก๊าซพิษหรือควันไอเสียจากเครื่องยนต์ดีเซล
ทั้งนี้ บริษัททั้งสองแห่ง ได้แก่ กลุ่มบริษัทโฟล์คสวาเกน ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ซึ่งมีรถยนต์ในเครือคือ โฟล์คสวาเกน ปอร์เช่ และออดี้ ตกลงจ่ายค่าปรับ 502,362,000 ยูโร ( ราว 19,361.86 ล้านบาท ) ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยูประนีประนอมกับคณะกรรมาธิการยุโรป บรรลุข้อตกลงจ่ายค่าปรับที่มูลค่า 372,827,000 ยูโร ( ราว 14,369.37 ล้านบาท )
Total fine of €875 million to @BMW@Porsche @AudiOfficial @VW @Daimler for illegally colluding to restrict competition on emission cleaning technology for diesel cars. There are legitimate pro-competitive reasons to cooperate, but this went wrong! More: https://t.co/jvKGdpBXFJ
— Margrethe Vestager (@vestager) July 8, 2021
#EUAntitrust #cleanenergy #EUGreenDeal Commission ?? fines car manufacturers €875 million for restricting competition in emission cleaning for new diesel passenger cars ⬇️https://t.co/WtTu7lAAnk pic.twitter.com/ss17pVnMAl
— EU Competition (@EU_Competition) July 8, 2021
ขณะที่กลุ่มบริษัทเดมเลอร์มีชื่ออยู่ในบัญชีดำเช่นกัน ได้รับสิทธิคุ้มกันเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเป็นผู้แจ้งเบาะแสสำคัญแก่คณะกรรมาธิการยุโรป อย่างไรก็ตาม เดมเลอร์อาจต้องชำระค่าปรับ 727 ล้านยูโร ( ราว 28,019.78 ล้านบาท ) หากไม่สามารถแสดงหลักฐานยืนยันภายในระยะเวลาที่กำหนด
นางมาเกรเธอ เวสทาเกอร์ รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการตรวจสอบด้านนี้โดยตรง กล่าวว่า ผลการสอบสวนอย่างละเอียดพบว่า บริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในรายชื่อสมคบคิดกันมานานกว่า 5 ปี คือระหว่างเดือน มิ.ย. 2552 ถึง ต.ค. 2557 เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันในระบบตลาดเดียวของสหภาพยุโรป ( อียู ).
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES