เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ตลาดธนบุรี (สนามหลวง2ว เขตทวีวัฒนา นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานแถลงข่าว กทม. กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน โดยมี นายศรชัย โตวานิชกุล รองผอ.สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร นายชนาธิป ล.วีระพรรค ผอ.สำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร และนายแสนยากร อุ่นมีศรี ผอ.สำนักพัฒนาสังคม ร่วมแถลงข่าว
รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของกทม. ใน ช่วงระยะ 4 เดือนว่า เนื่องด้วยรัฐบาลมีนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจ กทมจึงมีนโยบายในการสนองภาครัฐ ซึ่งในช่วงระหว่างนี้ตั้งแต่ 20 สิงหาคมถึง 31 ตุลาคมอย่างไม่มีเงินลงไปยังภาคประชาชน โดยกทมจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ว่ากทมก็ได้มีนโยบายใน 3 มิติคือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สร้างอาชีพ ทั้งนี้เรื่องเศรษฐกิจภาครัฐอาจจะไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนหลักโดยเฉพาะเมืองเราเป็นผู้ให้พื้นที่ เช่นเรามีโรงรับจำนำให้เงินกู้ได้ เรามีตลาด 12 แห่งก็สามารถเปิดให้มีผู้ค้ามากขึ้นได้ มีการเปิดพื้นที่จุดผ่อนผันต่างๆเปิดHawker Center จัดงานจำหน่ายสินค้า
ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นมิติที่ทางกทม.สามารถสนับสนุนได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาดูในอำนาจที่ กทม.สามารถทำได้ก็มีสำนักต่างๆที่เกี่ยวข้องด้านพาณิชย์ทำได้ ทั้งสำนักงานตลาดกรุงเทพฯ สำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร (โรงรับรับจำนำ และสำนักพัฒนาสังคม ซึ่งก็จะดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใน 3 มิติ คือ
ลดรายจ่าย ได้แก่ ลดค่าเช่าตลาดในตลาดสังกัดกทม. 8 แห่ง ลดดอกเบี้ยโรงรับจำนำ แจกคูปองส่วนลดและให้ของแถมกิจกรรมสวนผักคนเมืองและธนาคารอาหารและของใช้เพื่อกลุ่มเปราะบาง (BKK food bank )
เพิ่มรายได้ ได้แก่ เปิดพื้นที่จำหน่ายสินค้าภายในสำนักงานเขตเปิดพื้นที่จำหน่ายสินค้าในงานเทศกาลพัฒนาย่านสร้างสรรค์ในแต่ละเขตและเปิดพื้นที่ค้าขายให้กับประชาชน( Haeker Center) และสร้างอาชีพที่ โรงเรียนฝึกอาชีพของกทม. และศูนย์ฝึกอาชีพกทม. รวมถึงการฝึกอาชีพระยะสั้น ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมต่างๆกระตุ้นเศรษฐกิจองกทม.ในครั้งนี้ถึงแม้บางเรื่องจะเกิดขึ้นในระยะสั้น แต่ในบางนโยบายก็สามารถเดินต่อในระยะยาวได้เพื่อช่วยให้เกิดความยั่งยื่น ในอนาคต
ขณะที่ รองผอ.สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการลดค่าเช่าแผงค้าตลาดกรุงเทพมหานคร และการจัดกิจกรรมโปรโมชันกระตุ้นการจับจ่ายว่า สำนักงานได้จัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ BMA Market Grand Sale พร้อมแคมเปญ “ลด แลก แจก แถม” คือ “ลด” หมายถึง ลดคำเข่าแผงค้าให้กับผู้ค้าที่มีสัญญา 50% จำนวนวน 4 เดือน ตั้งแต่เดือน 1 ก.ย.67 – 31 ธ.ค.67 ใน 8 ตลาดของกทม. คือ ตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดมีนบุรี ตลาดธนบุรี ตลาดประชานิเวศน์1 ตลาดเทวราช ตลาดหนองจอก ตลาดบางกะปิ และตลาดพระเครื่องวงเวียนเล็ก รวมผู้ค้ารายย่อยราว 11,000 รายที่จะสามารถลดรายจ่ายเรื่องค่าเช่าแผง
“แลก” หมายถึง ผู้ค้าจะมีบัตรสะสมแต้มเพื่อมาแลกของพรีเมี่ยมที่ทำการตลาด “แจก” หมายถึง ผู้ซื้อได้รับ คูปองจากสำนักงานตลาดเพื่อลุ้นโชคณ ตลาดที่เข้าร่วมแคมเปญ และลุ้นรับรางวัลใหญ่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ณ ตลาดนัดจตุจักร “แถม” หมายถึง ผู้ซื้อที่ซื้อสินค้าในตลาดครบ 500 บาท กับแผงค้าที่ร่วมแคมเปญ สามารถรับของแถมที่ตลาดจัดไว้
ส่วนผอ.สำนักงานสถานธนานุบาลฯ กล่าวถึงการลดอัตราดอกเบี้ยโรงรับจำนำของกทม. ว่า โรงรับจำนำ กทม. กำหนดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำ จากเดิมร้อยละ 0.25 บาทต่อเดือน เหลือเพียงร้อยละ 0.05 บาทต่อเดือน สำหรับเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท ตั้งแต่วันที่วันที่ 1 ก.ย – 31 ต.ค.67 โดยเตรียมวงเงินสำหรับโครงการนี้ 80 ล้านบาท
ด้าน ผอ.สำนักพัฒนาสังคม กล่าวเพิ่มว่า กทม.เตรียมจัดกิจกรรม Kick Off โครงการ กทม. กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ในวันที่ 20 -22 ส.ค.67 ณ บริเวณโดยรอบไปรสนียาคาร ย่านปากคลองตลาด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และ บริเวณวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เชื่อมไปย่านกุฎีจีน.