เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงศ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือจนทำให้เกิดน้ำท่วมหนักกระทบบ้านเรือประชาชนว่า ในส่วนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตนได้รับรายงานว่าคอสะพานถนนทางหลวงสาย 1155 สายเทิง-ภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย บริเวณกิโลเมตรที่ 16 ขาดไม่สามารถสัญจรได้ ทำให้น้องนักเรียนที่มีภูมิลำเนาในตำบลตับเต่า มาเรียนเขตตัวอำเภอเทิง ประมาณหลักสิบรายไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ จึงได้สั่งการให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อำนวยการโรงเรียน ดูแลให้เรื่องอาหารการกินให้ดีที่สุด ซึ่งยืนยันนักเรียนทุกคนปลอดภัยดีเพราะน้ำไม่ได้ท่วมโรงเรียน ขณะเดียวกันได้เน้นย้ำว่าให้นักเรียนอยู่ที่โรงเรียนจนกว่าถนนจะซ่อมเสร็จและปลอดภัยจึงปล่อยให้กลับบ้านได้ โดยระหว่างนี้ให้เขตพื้นที่ ผู้อำนวยการโรงเรียน และครูดูแลนักเรียนอย่างเต็มที่
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ และขณะนี้กำลังไหลลงมายังพื้นที่ จ.แพร่ จ.น่าน และ จ.สุโขทัย นั้น ตนได้สั่งการให้เขตพื้นที่การศึกษาสั่งสถานศึกษาในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำหลาก พร้อมยกสิ่งของจำเป็นเก็บขึ้นที่สูงตามข้อสั่งของหน่วยงานในพื้นที่แล้ว พร้อมให้เขตพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดูความปลอดภัยของนักเรียนและครูเป็นสำคัญโดยให้ประสานความช่วยเหลือกับหน่วยงานในพื้นที่ ขณะเดียวกันหากสถานการณ์น้ำส่งผลกระทบหนักจนทำให้ไม่สามารถเปิดเรียนได้ให้ถือเป็นอำนาจของผู้อำนวยการโรงเรียนพิจารณาตามความเหมาะสมสั่งปิดเรียนได้ทันที เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนในด้านการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ในฐานะที่กำกับดูแล สพฐ. มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ดังกล่าวอย่างมาก ซึ่งได้มอบหมายให้ สพฐ. ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยเน้นย้ำความปลอดภัยของนักเรียน ครู ต้องมาเป็นอันดับแรก.