สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส พบหารือกับแกนนำจากพรรคการเมืองขนาดใหญ่หลายพรรค ทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ที่ทำเนียบปาแลเดอเลลีเซ ในกรุงปารีส เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ ที่ยังตั้งรัฐบาลชุดใหม่ไม่ได้ หลังผ่านพ้นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
จากจำนวน 577 ที่นั่ง พันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายในนาม “แนวร่วมประชานิยมใหม่” (เอ็นเอฟพี) ที่เป็นการรวมตัวระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์ พรรคสังคมนิยม และพรรคกรีนส์ ได้รับการเลือกตั้งมากที่สุดมากกว่า 190 ที่นั่ง ตามด้วยพันธมิตรสายกลางนำโดยพรรคเรเนสซองส์ ของมาครง ประมาณ 160 ที่นั่ง และพรรคแนวร่วมแห่งชาติ (อาร์เอ็น) ของนางมารีน เลอ แปน และนายจอร์แดน บาร์เดลลา ได้รับการเลือกตั้งประมาณ 140 ที่นั่ง แต่เกณฑ์การครองเสียงข้างมากพรรคเดียวในสภา คืออย่างน้อย 289 ที่นั่ง
ทั้งนี้ พันธมิตรฝ่ายซ้ายยังคงยืนกราน การมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลก่อน และเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวว่า “รัฐบาลฝ่ายซ้ายเท่านั้น” จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองและความมั่นคงของบ้านเมือง ดังนั้น เขาจะไม่มีทางเลือกแนวทางนี้ และเรียกร้องให้ฝ่ายซ้ายร่วมมือกับพรรคการเมืองที่เป็นขั้วอื่น
ด้านนายฌ็อง-ลุก เมล็องชง แกนนำคนสำคัญของเอ็นเอฟพี และหัวหน้าซ้ายจัด ประณามมาครง “รัฐประหารประชาธิปไตย” และเรียกร้องการประท้วง พร้อมทั้งเตือนว่า จะมีการยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดี
อนึ่ง รัฐบาลฝรั่งเศสซึ่งกำลังเผชิญกับวิกฤติหนี้สิน มีกำหนดต้องนำเสนอแผนงบประมาณฉบับใหม่ต่อสภา ภายในเดือนหน้า และพันธมิตรฝ่ายซ้ายต้องการให้มาครงแต่งตั้ง น.ส.ลูซี กาสเตส์ นักเศรษฐศาสตร์หญิง วัย 37 ปี ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหานี้.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES