เมื่อวันที่ 31 ส.ค. พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รอง ผกก.สส.สน.พระราชวัง พ.ต.ต.พลาวัสถ์ คนกล้า สว.สส.สน.พระราชวัง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง จับกุมตัวนายเจีย วิรัตน์ อายุ 60 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อมของกลาง กระเป้าสะพายสีดำ จำนวน 1 ใบ แผ่นฟอยล์สีเงิน พร้อมเทปใส จำนวน 1 แผ่น ชุดที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ โดยจับกุมตัวได้ภายในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม.
สืบเนื่องจากที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สน.พระราชวัง ว่าถูกลักทรัพย์ภายในวัดพระเชตุพนฯ อยู่บ่อยครั้ง โดยครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ส.ค. เวลาประมาณ 13.30 น. นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ถูกลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบผู้ก่อเหตุเป็นชาย รูปร่างสูงผอม สีผิวดำแดง สวมหมวกแก๊ปสีขาว สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ และจะสะพายกระเป๋าไว้ข้างหน้า มือข้างหนึ่งจะถือเสื้อแขนยาวสีดำ เพื่อปกปิดการก่อเหตุ ทาง พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง ได้มีข้อสั่งการให้ทุกฝ่าย ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ป้องกันการประทุษร้ายต่อทรัพย์ และจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพที่มาทำการก่อเหตุลักทรัพย์ภายในวัดพระเชตุพนฯ ให้ได้
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในวัดพระเชตุพนฯ พบชายซึ่งมีตำหนิรูปพรรณการแต่งกายคล้ายกับคนร้ายที่ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ยืนอยู่บริเวณหน้าวิหารพระพุทธไสยาสน์ ภายในวัดพระเชตุพนฯ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว และสอบถามทราบชื่อว่า นายเจีย วิรัตน์ ชาวกัมพูชา ซึ่งสามารถพูดภาษาไทย อ่านออกเขียนได้ เมื่อขอตรวจสอบเอกสารกลับไม่สามารถนำมาแสดงได้ และยอมรับว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาโดยเข้าออกตามทางช่องทางธรรมชาติ ด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อยู่เป็นประจำ ครั้งล่าสุดเข้ามาวันที่ 25 มิ.ย. 67 แต่ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวในวัดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และเตรียมผลักดันกลับประเทศ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานและทำรายงานการสืบสวน จนสามารถยืนยันตัวตนว่า คนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ (ล้วงกระเป๋า) นักท่องเที่ยวในวัดตามภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 12 ส.ค. คือนายเจีย วิรัตน์ ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณ และการแต่งตัวตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงทำการสอบสวนเพิ่มเติม
นายเจีย วิรัตน์ ได้รับสารภาพว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับภาพกล้องวงจรปิด และได้ล้วงกระเป๋าเอามือถือของนักท่องเที่ยวไปจริง ซึ่งเมื่อได้มือถือมา ก็จะปิดเครื่องและนำแผ่นฟอยล์สีเงินมาห่อหุ้มไว้ เพื่อไม่ให้จับสัญญาณจีพีเอสได้ ก่อนจะส่งรถขนส่งเอกชนไปที่ชายแดนอรัญประเทศ จากนั้นจะมีคนมารับช่วงต่อ นำไปขายในประเทศกัมพูชา เครื่องละ 1,000-5,000 บาท แล้วแต่รุ่นมือถือ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลักทรัพย์ของผู้อื่น และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.