สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าครองส่วนแบ่งในตลาดของนอร์เวย์ถึงร้อยละ 94 เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ทำสถิติโลกครั้งใหม่ สวนทางกับยอดขายในยุโรปที่ซบเซา
รายงานของโอเอฟวีระบุว่า รถยนต์ไฟฟ้าครองส่วนแบ่งของตลาดในประเทศที่ร้อยละ 94.3 ของการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ เมื่อเดือนที่แล้ว นำโดยโมเดลวาย ของเทสลา ร้อยละ 18.8 ของยอดขายทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ โคนา ของฮุนได และลีฟ ของนิสสัน
เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ชาวนอร์เวย์ออกรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 10,480 คัน และมียอดรวมอยู่ที่ 68,435 คัน นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ขณะที่ในตลาดอื่น ๆ ในยุโรป ราคาที่สูงและโครงสร้างพื้นฐานซึ่งไม่รองรับ ทำให้ยอดขายลดลง ด้านรถยนต์รุ่นไฮบริด ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งเครื่องยนต์เชื้อเพลิงและแบตเตอรี่ มียอดขายเพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน นอร์เวย์เป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ ตั้งเป้าจำหน่ายเฉพาะยานยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ภายในปี 2568 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของสหภาพยุโรป (อียู) ถึง 10 ปี ผ่านการมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีมากมาย นำไปสู่การแข่งขันด้านราคา
“ไม่มีประเทศไหนในโลกที่มีการแข่งขันด้านรถยนต์ไฟฟ้าเท่านอร์เวย์” นายออยวินด์ โซลแบร์ก ธอร์เซน ผอ.โอเอฟวี กล่าว พร้อมเสริมว่า หากแนวโน้มการซื้อรถอีวียังคงดำเนินต่อไป นอร์เวย์อาจบรรลุเป้าหมายยานยนต์ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ภายในปีหน้า
อนึ่ง สัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นร้อยละ 12.1 ของยอดออกรถใหม่ทั่วทั้งสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ตามหลังรถยนต์เบนซินที่ร้อยละ 33.4 รถไฮบริดร้อยละ 32 และรถยนต์ดีเซลที่ร้อยละ 12.6 ตามข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ยุโรป.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES