เมื่อวันที่ 16 ต.ค. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร ผกก.3 บก.ปอศ. พ.ต.ท.วีร์กวิน เสริมศรีธนชัย พ.ต.ท.ปัญญาวุฒิ แสนทวีสุข รอง ผกก.3 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ สว.กก.3 บก.ปอศ. เข้าตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่ง ในซอยนาคนิวาส 12 ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว หลังได้รับแจ้งว่าเปิดเป็นบริษัทให้คำปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่ได้รับอนุญาต

อาคารดังกล่าวเปิดเป็นสำนักงาน มีนายนิติรุจน์ (สงวนนามสกุล) เป็นเจ้าของ จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทดังกล่าวมีการจดทะเบียนประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล อาทิ คริปโตเคอร์เรนซี โทเคนดิจิทัล และการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลต่างๆถูกต้อง แต่ไม่ได้มีการขออนุญาตจากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในเรื่องของการให้คำปรึกษา จึงได้ทำการคุมตัวนายนิติรุจน์ ไปสอบปากคำ

ด้าน พ.ต.อ.จักรกริช กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบบริษัทดังกล่าว สืบเนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ลงทุนได้ให้ความสนใจในด้านการลงทุนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งคริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัล ประเภทต่างๆผ่านแพลตฟอร์มทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งเป็นช่องทางให้กลุ่มมิจฉาชีพได้นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงให้แก่ผู้ลงทุน เกิดเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ที่สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อสังคมไทยในปัจจุบัน

พ.ต.อ.จักรกริช กล่าวต่อว่า บริษัทดังกล่าวมีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ให้คำปรึกษาการลงทุน โดยอ้างว่าได้รับสัญญาณจากนักลงทุนระดับโลก มีการเรียกเก็บค่าบริการจากสมาชิกเป็นรายเดือนจากการผู้ที่สนใจโดยใช้แอปพลิเคชั่น Telegram เป็นช่องทางส่งสัญญาณเช่าซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนถูกต้องแต่ไม่ได้รับอนุญาติทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในเรื่องของการให้คำปรึกษา

พ.ต.อ.จักรกริช กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำ นายนิติรุจน์ ให้การถึงแหล่งที่มาของข้อมูลที่ใช้ในการให้สัญญาณซื้อขาย อ้างว่ามีแหล่งที่มาจากการวิเคราะห์กราฟแนวโน้มการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจากประสบการณ์ของผู้ดูแลกลุ่ม (Admin) และมาจากแหล่งข้อมูลในเว็บไซต์ต่างประเทศ แต่ปัจจุบันทางบริษัทยังไม่ได้รับอนุญาต และไม่ได้อยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ต่อก.ล.ต. แต่อย่างใด

ผกก.3 บก.ปอศ.กล่าวด้วยว่า ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนที่สนใจในเรื่องการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลว่า ควรตรวจสอบบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และได้รับการอนุญาตจากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งฝากถึงผู้ประกอบการหรือบริษัทที่ให้คำปรึกษาต้องยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ต่อ ก.ล.ต. ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันและสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน อีกทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพได้นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงให้แก่ผู้ลงทุนสร้างความเสียหาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล ปี 2561 นำส่งพนักงานสอบสวนกก.3 บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.