เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้ให้ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ระบุว่า “ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มไม่ว่าจะเป็นสูตรใดยังมีโอกาสติดเชื้อได้อยู่” ข้อมูลก่อนหน้าเดลต้าดูเหมือนจะบอกว่า ถึงแม้จะติดเชื้อได้อยู่แต่ปริมาณไวรัสจะอยู่ในร่างกายไม่มาก มีแนวโน้มจะไม่เพียงพอต่อการแพร่กระจายต่อ ความเชื่อว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนจะปลอดภัย หลายประเทศอนุญาตให้ประชากรของตัวเองถอดหน้ากากทำกิจกรรมต่างๆได้ แต่อีกไม่นานต่อมาต้องมารณรงค์ให้ใส่หน้ากากอนามัยกันอีกครั้ง

ข้อมูลในวารสาร Nature Medicine ที่เพิ่งตีพิมพ์ออกมา เก็บข้อมูลในประชากร มากกว่า 15000 ที่ตรวจโควิด ด้วย RT-PCR ในช่วงเวลาต่างๆ และ มีข้อมูลการฉีดวัคซีน (AZ และ PZ) หรือ การติดเชื้อมาก่อน แสดงให้เห็นชัดว่า องค์ความรู้ที่ได้มาจากการติดเชื้อโควิดก่อนเดลต้า ไม่สามารถนำมาใช้กับเดลต้าได้

“ในขณะที่การติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม (G) และ แอลฟ่า ผลจากการฉีดวัคซีนแม้จะแค่เข็มเดียว หรือ เคยติดเชื้อมาก่อน ส่งผลให้ปริมาณไวรัสที่ตรวจได้หลังจากที่ไปติดเชื้อซ้ำมา มีน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนจริงๆ” ข้อมูลจะชัดมากในช่วงแอลฟ่าระบาด ซึ่งเป็นช่วงที่มีมาตรการหยุดใช้หน้ากากอนามัย แต่เมื่อเดลต้าเข้าระบาดในประเทศ ข้อมูลปริมาณไวรัสในผู้ป่วยเปลี่ยนไปชัดเจนครับ เดลต้าสามารถตรวจวัดได้เท่าๆกันในทุกกลุ่ม ไม่มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะไม่เคยฉีดวัคซีน ได้วัคซีนเข็มเดียว สองเข็มครบ หรือ เคยติดเชื้อมาก่อน ที่น่าสนใจคือ คนที่เคยติดเชื้อมาก่อนติดเชื้อเดลต้าซ้ำมีไวรัสเหมือนจะมากกว่าคนที่ไม่ได้รับวัคซีนด้วย (แต่ไม่แน่ใจว่ามีนัยสำคัญทางสถิติหรือไม่) ค่า Ct ประมาณ 20-25 นี้เป็นค่าที่ ATK ตรวจพบได้ เป็นค่าที่สามารถเพาะเชื้อไวรัสขึ้น และ แน่นอนไวรัสแพร่กระจายต่อได้

“วัคซีนเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการป้องกันอาการโควิด แต่วัคซีนตอนนี้ยังป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไม่ได้ดีนัก ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วทำอะไรได้บ้าง ไม่ได้บ้าง คงต้องสื่อสารให้ชัดครับก่อนจะเข้าใจผิดกัน”..

ขอบคุณภาพและข้อมุลจาก @Anan Jongkaewwattana