จากกรณี อิทธิพลพายุโซนร้อนกำลังแรง “คมปาซุ” และร่องความกดอากาศ ทำให้เกิดมีฝนตกอย่างต่อเนื่องจนปริมาณน้ำมีระดับสูงขึ้นเต็มความจุของเขื่อนจุฬาภรณ์และเขื่อนห้วยกุ่ม ดังนั้นเพื่อรักษาความปลอดภัยของตัวเขื่อนและโรงไฟฟ้า จึงมีความจำเป็นต้องเปิด Spillway (ประตูน้ำใหญ่) เพื่อรักษาระดับน้ำไม่ให้เต็มความจุเขื่อน เป็นระยะ ๆ ส่งผลให้ลำน้ำพรหมมีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลเอ่อล้นทั้งสองฝั่งลำห้วย จนทะลักเข้าท่วมพื้นที่ตลาดและเขตเศรษฐกิจของเทศบาลเกษตรสมบูรณ์สูงกว่า 50 ซม. และบางจุดมีความสูงกว่า 1-2 เมตร ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันทั่วหน้ากว่า 1,000 ครอบครัว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ชัยภูมิ ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ เพื่อลงสำรวจให้ความช่วยเหลือชาวบ้านและระดมเจ้าหน้าที่กำลังทหาร ฝ่ายปกครอง รถขนาดสูง และเรือ เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกตัดขาด ซึ่งต้องฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวแรง จนท.ยังเข้าถึงไม่ได้อีกจำนวนมาก ซึ่งทางจนท.ทุกฝ่ายได้พยายามเร่งเข้าไปช่วยเหลือพาชาวบ้านอพยพออกจากบ้านอีกหลายพื้นที่กันอย่างเร่งด่วนในขณะนี้แล้ว ทั้งนี้ จังหวัดชัยภูมิ ได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำท่วมทั้งจังหวัดรวม 16 อำเภอ ออกประกาศเป็นเขตภัยพิบัติน้ำท่วมหนักแล้ว 9 อำเภอ ได้แก่ อ.บำเหน็จณรงค์ อ.เทพสถิต อ.จัตุรัส อ.หนองบัวระเหว อ.บ้านเขว้า อ.เนิ่นสง่า อ.เมือง อ.ภูเขียว และ อ.เกษตรสมบูรณ์ และยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง เพราะเขื่อนจุฬาภรณ์ยังปล่อยน้ำลงมาเป็นระยะ ๆ