สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ว่า ญี่ปุ่น ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่ล่าวาฬเชิงพาณิชย์ เช่นเดียวกับนอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ เพิ่มวาฬฟินลงในรายชื่อสายพันธุ์วาฬที่สามารถจับได้ในปีนี้ จากเดิมที่มีวาฬมิงค์, วาฬบรูด้า และวาฬเซย์
ภาพถ่ายที่ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แสดงให้เห็นซากวาฬฟิน ถูกลากขึ้นเรือแม่ล่าวาฬลำใหม่ของญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า “คังเกมารุ” โดยมีคนงานยืนอยู่ข้าง ๆ ซากวาฬ และเตรียมมีดเล่มใหญ่เพื่อชำแหละมัน
อนึ่ง วาฬฟินเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่อันดับสองของโลก รองจากวาฬสีน้ำเงิน ซึ่งมันถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อสัตว์ที่ “เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์” ขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) และการตัดสินใจของญี่ปุ่น ในการจับวาฬเหล่านี้ ยังทำให้บรรดานักอนุรักษ์เกิดความตื่นตระหนกด้วย
“นี่เป็นการจับวาฬฟินครั้งแรก ในการล่าวาฬเชิงพาณิชย์ของญี่ปุ่น นับตั้งแต่ปี 2519 หรือเกือบครึ่งศตวรรษที่แล้ว” นายมาสุโอะ อิเดะ โฆษกของบริษัท เคียวโด เซนปาคุ ซึ่งเป็นบริษัทล่าวาฬ กล่าว
ทั้งนี้ วาฬฟินตัวดังกล่าวถูกจับเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นวาฬตัวผู้ที่มีความยาว 19.61 เมตร และมีน้ำหนักอย่างน้อย 55 ตัน โดยหลังจากนั้น ลูกเรือของเรือคังเกมารุ สามารถจับวาฬฟินได้อีก 4 ตัว
แม้ญี่ปุ่นถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในการระงับการล่าวาฬเชิงพาณิชย์ชั่วคราว ของคณะกรรมการการล่าวาฬระหว่างประเทศ (ไอดับเบิลยูซี) ซึ่งทำให้เกิดการล่าวาฬเชิงวิทยาศาสตร์ แต่ญี่ปุ่นก็ถอนตัวออกจากไอดับเบิลยูซี เมื่อปี 2562 ก่อนกลับมาล่าวาฬเชิงพาณิชย์อีกครั้ง ในน่านน้ำอาณาเขต และเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (อีอีแซด) ของประเทศ.
เครดิตภาพ : AFP