ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างร้อนแรงทีเดียว สำหรับภาพยนตร์ระทึก “NEVER LET GO ผูกเป็น หลุดตาย” ที่นำแสดงโดย “ฮัลลี เบอร์รี” นักแสดงมากฝีมือ ซึ่งนอกจากหลายคนจะชอบความน่าสนใจของโปสเตอร์ ตลอดจนเนื้อหาบางอย่างที่สปอยล์ออกมาแล้ว หลายคนก็อยากรู้หนักมากว่า เรื่องนี้มันพิเศษที่ตรงไหนบ้าง เราเลยไม่พลาด หยิบมาฝากกันจ้า
ประเด็นแรก คือ ฮัลลี เบอร์รี ในบท แม่/จูน โดย เบอร์รีถ่ายทอดตัวละครที่ซับซ้อนและมีอดีตที่บอบช้ำเธอเติบโตใน ครอบครัวที่มีความรุนแรงและเคร่งศาสนาเธอทนไม่ไหวจนต้องหนีออกจากบ้าน แต่กลับมาบ้านในวัยเด็ก พร้อมกับลูกชายฝาแฝด อดีตของเธอมีอิทธิพลอย่างมากต่อการกระทำและแรงจูงใจของเธอในหนัง ซึ่ง ฮัลลี เบอร์รี ทุ่มเทแปลงโฉม เพื่อมารับบท “แม่” ในเรื่อง เบอร์รีเปลี่ยนแปลงร่างกายทางกายภาพหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยให้ขนบนร่างกายยาวตามธรรมชาติ กัดเล็บแทนตัดเล็บ การย้อมฟันให้เหลืองชั่วคราว และการแต่งหน้าให้มีแผลเป็น รอยไหม้ และรอยสัก รายละเอียดเหล่านี้ช่วยสื่อให้เห็นถึงอดีตที่ยากลำบากของตัวละคร ให้เห็นว่าเธอใช้ชีวิตตัดขาดจากโลกภายนอกมากหลายปี ด้านนักแสดงเด็กเล่นสตั๊นต์ด้วยตัวเองอย่าง แอนโธนี บี. เจนกินส์ และ เพอร์ซี แดกกส์ ที่ 4 ที่รับบทเป็นลูกชายฝาแฝด ซามูเอล และ โนเลน เล่นฉากผาดโผนด้วยตัวเองในหลายฉากสำคัญ ผู้ประสาน งานแอ๊คชั่น มาฮา อาโร ชมความกระตือรือร้นและความอดทนของสองเด็กชาย นอกจากฉากแอ๊คชั่นแล้ว สองเด็กชายต้องฝึกพูดสำเนียงชาวใต้ (บ้านกลางป่าตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเทนเนสซี) และทำความเข้าใจกับบทบาทของตนเพื่อให้เข้าถึงตัวละคร
ประเด็นต่อมา การกำกับที่เน้นไปที่สมจริงของ อเล็กซองดร์ อาฌา งานนี้ อาฌาได้ชื่อว่าเป็นตัวพ่อสายสยอง ยืนกรานที่จะถ่ายทำในป่าจริงใกล้แวนคูเวอร์ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ชวนขนลุกอย่างแท้จริงให้นักแสดงได้สัมผัส เขาเชื่อว่าความสมจริงนี้จะช่วยให้การแสดงมีความเป็นธรรมชาติและเข้มข้นยิ่งขึ้น
ประเด็นที่สาม คือ ที่มาของบทภาพยนตร์ ซึ่งนักเขียน เคซี คัฟลิน และ ไรอัน กราสบี พัฒนาบทจากคำถามตั้งต้นง่าย ๆ ว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าครอบครัวที่ติดอยู่ในบ้าน เพราะโดนความชั่วร้ายล้อมกรอบ ซึ่งบ้านหลังนี้ เป็นที่เดียวที่พวกมันไม่สามารถย่างกรายเข้ามาได้” แนวคิดนี้ถูกพัฒนากลายจนเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนเกี่ยวกับความกลัว, ครอบครัว และธรรมชาติของความชั่วร้าย
ประเด็นที่สี่ เทคนิคการถ่ายทำ ซึ่ง มักซีม อเล็กซองดร์ ผู้กำกับภาพ ใช้กล้อง 65 มม. กับเลนส์มุมกว้างถ่ายทำ ทำให้สามารถถ่ายในพื้นที่จำกัดแต่ยังคงให้ความรู้สึกถึงขนาดและความลึก ซึ่งสำคัญต่อการสร้างบรรยากาศตึงเครียดของภาพยนตร์การจัดแสงที่ทำให้สามารถถ่ายกลางวันให้ออกมาเป็นฉากกลางคืนได้ (DAY FOR NIGHT)
ประเด็นที่ห้า สัญลักษณ์ของเชือก ซึ่งเชือกเป็นองค์ประกอบสำคัญในภาพยนตร์ สัญลักษณ์เป็นทั้งตัวแทนของความปลอดภัยและการกักขัง มันคือภาพสะท้อนของ “สายสะดือ” ที่เชื่อมโยงครอบครัวเข้ากับบ้าน วิพากษ์ปัญหาที่แท้จริงอย่างการปกป้องลูกที่เกินไปจนกลายเป็นการจำกัดอิสระ และการรับมือกับบาดแผลทางจิตใจที่ส่งต่อระหว่างรุ่นนั่นเอง
แฟนๆ สามารถติดตามข่าวสารรอบโลกได้แล้ววันนี้ที่ www.dailynews.co.th และทุกแพลตฟอร์มของ Dailynews