เมื่อวันที่ 16 ก.ย. นายอับดุล สารีเต๊ะ อายุ 50 ปี เจ้าของฉายา “อับดุลจิตอาสา นักวิ่ง 999” ชาว อ.มายอ จ.ปัตตานี ได้เริ่มวิ่งจาก อ.มายอ จ.ปัตตานี สู่ จ.เชียงราย เป็นระยะทาง 1,800 กว่ากม. โดยจะใช้เวลา 1 เดือนในการวิ่งครั้งนี้ เพื่อหาเงินช่วยเหลือชาวจ.เชียงรายที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยระหว่างทางวิ่ง ได้มีประชาชนริมสองข้างทางเป็นจำนวนมากได้นำเงินมามอบให้เพื่อสมทบทุนในการช่วยเหลือ รวมถึงถ่ายรูปและส่งกำลังใจให้กับบังดุลในการวิ่งให้ประสบความสำเร็จ และที่ทำเอาหลายคนสงสัยว่าบังดุลแบกเหล็กอะไรมาด้วย นั่นคืออุปกรณ์ตั้งมือถือสำหรับไลฟ์สดบนติ๊กต็อก abdul ซึ่งมีน้ำหนักมากพอสมควรที่จะต้องแบกไปด้วยตลอดการวิ่ง
สำหรับบังดุล นอกจากจะเป็นจิตอาสาช่วยเหลือรับส่งผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บแล้ว ยังเป็นนักวิ่งจิตอาสาอีกด้วย เพื่อระดมเงินจากประชาชนไปมอบในเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งออกวิ่งครั้งแรกเมื่อปี 2562 โดยวิ่งระดมทุนช่วยเหลือโรงพยาบาล ครั้งนั้นได้วิ่งจาก จ.ปัตตานี ไปถึง จ.เชียงราย ใช้ระยะเวลา 2 เดือน
กระทั่งมีการออกวิ่งอีกครั้งเมื่อปี 2565 จากปัตตานี ไป จ.พระนครศรีอยุธยา ใช้ระยะเวลา 1 เดือน เพื่อระดมเงินบริจาคช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม แต่ทั้ง 2 ครั้งนั้นยังไม่มีใครรู้จัก และได้เงินมาไม่มาก แต่ก็ไปมอบให้เท่าที่ประชาชนบริจาค
ต่อมาการวิ่งที่ทำให้คนทั่วประเทศเริ่มจะรู้จัก และทำให้ชาวปัตตานีภาคภูมิใจคือ การออกวิ่ง 72 จังหวัด เป็นเวลา 4 เดือน ระยะทาง 6,000 กม. เพื่อหาเงินช่วยเหลือโรงพยาบาลมายอ จ.ปัตตานี ในการซื้อที่ดินขยายอาคารผู้ป่วยเพื่อเพิ่มเตียงจาก 30 เตียง เป็น 60 เตียง โดยเจ้าตัวได้วิ่งประสบความสำเร็จสามารถนำเงินที่ประชาชนทั่วประเทศบริจาคให้ในการวิ่งครั้งนั้นกว่า 1,027,000 บาท มามอบให้กับโรงพยาบาลมายอ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2566 แม้ว่าตนเองมีอายุมากแล้วแต่ร่างกายและจิตใจยังแข็งแรงดี พร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชนต่อไป
นายอับดุล สารีเต๊ะ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้ออกวิ่งจากบ้านที่ อ.มายอ เพื่อวิ่งไปยัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม มีระยะทาง 1,800 กว่ากม. ใช้เวลา 1 เดือนถึงที่หมาย ซึ่งจะพยายามวิ่งให้เร็วที่สุด โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะวิ่ง 50-60 กม.ต่อวัน ส่วนยอดเงินตนไม่ได้กำหนด แต่ถ้าได้มากก็เป็นเรื่องดี จะได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้ทั่วถึง และหากวิ่งไปถึงเชียงรายและน้ำลดตนก็อาจจะไปช่วยเหลือจังหวัดที่ยังมีน้ำท่วม เมื่อได้เงินจากประชาชนตนก็จะนำเงินไปซื้อถุงยังชีพเพื่อไปมอบให้แก่บ้านแต่ละหลัง
ตนทำแบบนี้เพราะตนเป็นจิตอาสาและอยากจะช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อน ตอนนี้ไม่ได้กังวลอะไรพร้อมที่จะเดินหน้าและสู้ต่อ ตนก็ขอให้ชาวเชียงรายสู้ๆ ผ่านวิกฤตินี้ให้ได้ และตนก็ขอกำลังใจตลอดเส้นทางในการวิ่ง ถ้าทุกคนเจอตนก็อยากให้ทุกคนร่วมสมทบทุนคนละน้อยเพื่อช่วยเหลือชาวเชียงราย สำหรับครอบครัวตนก็เห็นด้วย เพราะมันเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งตนก็ไม่ได้หวังอะไร ตนหวังผลบุญ เพราะตายไปทรัพย์สินเอาไปไม่ได้ สิ่งที่เอาไปได้คือผลบุญที่เราทำความดี.