วันที่ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ถนนพระองค์ดำ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ในทุก ๆ เช้าและทุกเย็นจะมีแม่ค้าจำนวนมากตั้งร้านขายอาหารหลากหลาย ซึ่งช่วงเช้าจะเปิดบริการริมถนนตั้งแต่ 06.00-09.00 น. แต่มีอยู่ร้านหนึ่งที่เปิดใหม่ใช้ชื่อร้าน “ข้าวห่อ 10 บาท” บริเวณหน้าศูนย์บริจาคโลหิตแห่งชาติภาค 9 พิษณุโลก และจะมีลูกค้าทั้งขาประจำและขาจร แวะเวียนมาอุดหนุนอย่างไม่ขาดสาย ด้วยราคาที่แสนถูกและกับข้าวที่แสนอร่อย มีหลากหลายร่วม 20 อย่างในแต่ละวัน

โดยร้าน “ข้าวห่อ 10 บาท” เพิ่งเปิดขายมาได้ 2 เดือน น.ส.เดือนเพ็ญ เอี่ยมสาย อายุ 30 ปี ชาว จ.พิษณุโลก เจ้าของร้านดังกล่าว เปิดเผยว่า แต่ละวันในทุกเช้า 06.00-09.00 น. จะมีเมนูกับข้าวสารพัดอย่าง อาทิ ผัดกะเพราไก่ ผัดกะเพราหมู ผัดฟักทอง ผัดหน่อไม้ น้ำพริกกะปิชะอม ไข่ดาว ไข่เจียว ข้าวต้มปลา โดยขายข้าวพร้อมกับ 1-2 อย่าง ในราคาห่อละ 10 บาทเท่านั้น มีบางเมนูที่ลูกค้าสั่งเป็นกับข้าวใส่ถุง ขายถุงละ 10-20 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษา และคนวัยทำงาน

น.ส.เดือนเพ็ญ กล่าวต่อว่า ตนเองเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูกสองคน จบการศึกษา ปวส. จากวิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก เคยทำงานพนักงานโรงแรมมาร่วม 5 ปี ก่อนออกจากงานมาช่วยน้องสาวขายของ จากนั้นฝันอยากมีกิจการของตนเอง จึงใช้เงินทุนก้อนสุดท้าย 3,000 บาท ซื้ออุปกรณ์ทำครัว วัตถุดิบ มาเปิดขายร้านข้าวห่อ 10 บาท เมื่อสองเดือนก่อน วันแรกทำกับข้าวมาขาย 7 อย่าง ต่อมาค่อย ๆ เพิ่มกับข้าวมาเป็นวันละ 15 อย่าง พอเริ่มมีกำไรก็ค่อย ๆ ทยอยซื้อของเข้าร้าน กระทั่งทุกวันนี้ทำกับข้าวมาขายวันละ 27 อย่าง

“อยากเปิดร้านที่พออยู่ได้ ยิ่งเศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราก็อยากแบ่งปันให้คนอื่นบ้าง ตามสโลแกน ลูกค้าอยู่ได้แม่ค้าอยู่รอด จะมีคนบางกลุ่มที่ต้องประหยัดเงินเพื่อครอบครัว บางคนได้ค่าแรงวันละ 300 บาท กินกับข้าวร้านตน 2-3 มื้อ ต่อวัน หรือจ่ายเงิน 30 บาท จะมีเงินเหลือเก็บ 270 บาทให้ครอบครัว ผลตอบรับที่ตนภูมิใจมากที่สุดคือ ลูกค้าจะชมว่า อร่อย ร้านสะอาด น่าทาน แม่ค้าพูดดี เพราะตนง้อลูกค้าอยากให้เขากลับมาซื้อตน และใครไม่มีก็มาทานฟรีได้ และหลายครอบครัวที่เดือดร้อนตนก็ติดต่อให้มารับกับข้าวของตนไปทานฟรีได้ทุกวัน” แม่ค้าสาวนํ้าใจงาม กล่าว