สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พ.ย. นี้ ว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรม แต่ไม่มั่นใจว่า จะเป็นการเลือกตั้ง “ที่สงบ” หรือไม่
ทั้งนี้ ไบเดนอ้างถึงคำกล่าวหลายต่อหลายครั้งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐ และแคนดิเดตของพรรครีพับลิกัน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้ ที่ยังคงกล่าวในเชิงไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง หากสถานการณ์ออกมาเป็นแบบเดียวกับการเลือกตั้ง เมื่อปี 2563
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวเมื่อปลายเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ว่า “จะไม่ลงสมัครอีก” หากเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยกล่าวว่า “ไม่แล้ว” แต่แสดงความหวังว่า “จะประสบความสำเร็จ” ในการเลือกตั้งครั้งนี้
Q: "Do you have confidence that it will be a free and fair election and that it will be peaceful?"
— CSPAN (@cspan) October 4, 2024
President Biden: "I'm confident it will be free and fair. I don't know whether it will be peaceful. The things that Trump has said…were very dangerous." pic.twitter.com/HrhpaooEHe
อนึ่ง ในวันสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐ เมื่อปี 2560 ทรัมป์ประกาศทันที ว่าเขาจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งผลปรากฏว่า พ่ายแพ้ให้แก่ไบเดน จากพรรคเดโมแมครต แต่ทรัมป์ยังคงกล่าวถึงผลการเลือกตั้งครั้งนั้นว่า “ถูกขโมย” และประกาศเมื่อเดือน พ.ย. 2565 ว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง
ด้านผลสำรวจความคิดเห็นผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งชาวอเมริกัน จัดทำร่วมกันโดยสถานีโทรทัศน์เอ็นพีอาร์ สำนักข่าวพีบีเอส และศูนย์วิจัยมาริสต์ เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา พบว่านางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน และตัวแทนพรรคเดโมแครต มีคะแนนนิยมนำทรัมป์ 50% ต่อ 48%
แต่เมื่อแยกตามกลุ่มการเมือง พบว่า ในบรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงซึ่งยืนยันว่า ไม่สนับสนุนทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าจะเลือกทรัมป์ 50% และ 46% จะลงคะแนนให้กับแฮร์ริส
ขณะที่ผู้มีสิทธิออกเสียงซึ่งจะใช้สิทธิล่วงหน้าผ่านทางไปรษณีย์ กล่าวว่า จะลงคะแนนให้กับแฮร์ริส 78% และทรัมป์ 21% ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่จะไปใช้สิทธิในวันที่ 5 พ.ย. กล่าวว่า จะเลือกทรัมป์ 58% และแฮร์ริส 40%.
เครดิตภาพ : AFP