จากกรณีที่ นายอวิรุธท์ วิชายา อายุ 27 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหาคดีมียาบ้าไว้ในครอบครอง แอบหลบหนีออกจากห้องขังก่อนปีนรั้วลวดหนามหลบหนีไปทางด้านข้างอาคาร สภ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพนาทีก่อเหตุไว้ได้ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วงจรปิดจับภาพหนุ่มค้ายาบ้า เปิดห้องขังปีนรั้วโรงพักเผ่นหนี!

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.เพิ่มสุข ศิริพละ ผกก. สภ.ภูเขียว ว่าขณะนี้ นายอวิรุธท์ ผู้ต้องหาที่หลบหนีออกจากห้องขังได้เดินทางเข้ามอบตัวกับทางตำรวจแล้ว โดยอ้างว่า ไม่มีเจตนาจะหลบหนีแต่อย่างใด แต่เนื่องจากขณะที่ตำรวจนำตัวมาได้นั้น ผู้ต้องหายังไม่ได้พบหน้าภรรยา ทำให้รู้สึกคิดถึงเป็นอย่างมาก เพราะหลังทราบข้อกล่าวหาจากตำรวจแล้วว่าจะต้องถูกควบคุมตัวเพื่อส่งฟ้องศาล จนต้องถูกกักขังที่ สภ.ภูเขียว เป็นเวลา 2 วัน เนื่องจากติดเสาร์-อาทิตย์ จึงคิดว่าหากเป็นไปได้ก็อยากจะกลับไปหาภรรยาเพื่อบอกลากันเสียก่อน

นายอวิรุธท์ ยังระบุด้วยว่า ตอนที่อยู่ในห้องขังได้ตั้งจิตอธิฐานในใจว่า ขอให้ได้มีโอกาสออกไปพบหน้าภรรยา ก่อนจะถูกจำคุกในอีก 2 วันข้างหน้านี้ด้วยเถิด จากนั้นก็ลองเดินไปผลักประตูทั้ง 2 บาน ปรากฏว่าสามารถผลักออกมาได้อย่างง่ายดาย พอออกจากห้องขังได้ ก็เดินอ้อมออกมาทางด้านประตูเก็บรถของกลาง ก่อนจะปีนรั้วหลบหนีออกมา จากนั้นก็กลับบ้านภรรยาเพื่อบอกลา ยืนยันว่าจะมอบตัวและรับสารภาพ เชื่อว่าไม่นานนักก็จะกลับมาหาภรรยาได้ ต้องขอโทษพี่ ๆ ตำรวจด้วยที่ออกไปโดยไม่ได้บอกกล่าว ตนคิดว่าตนเป็นนักเลงพอที่กลับมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป

ด้าน พ.ต.ท.นิติพัฒน์ พิกุล พนักงานสอบสวนเวร เปิดเผยว่า เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรไม่ได้ล็อกประตู ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเป็นอย่างไรนั้น ขณะนี้ ผู้บังคับบัญชาได้เตรียมตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว โดยอยู่ระหว่างสอบสวน เนื่องจากเหตุเกิดช่วงระหว่างเปลี่ยนเวร และในวันเกิดเหตุมีผู้ต้องหาหลายรายที่ พนักงานต้องไปนำตัวออกมาให้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวน คาดว่าผู้ต้องหาอาจอาศัยช่วงจังหวะทีเผลอหลบหนีไปนั่นเอง.