ถูกสนใจอยู่อย่างมากมายสำหรับเรื่องราวของกรณีธุรกิจดังอย่าง “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” ที่มีผู้อ้างว่าเป็นตัวแทนขายแต่ขายไม่ได้แล้วมีการฆ่าตัวตาย ทำให้มีการสนใจธุรกิจดังกล่าวและมองว่าเป็นธุรกิจในลักษณะของแชร์ลูกโซ่หรือไม่ โดยมีดาราที่ถูกใช้รูปโปรโมทดังๆมากมาย ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ และหลายคนก็พุ่งเป้าไปว่าดาราต่างๆนั้น มีตำแหน่งเป็นหุ้นส่วนในบริษัทดังกล่าวด้วย ล่าสุดวันนี้ 9 ต.ค. ที่เบเนดิกต์ สตูดิโอ เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี นักแสดงและนักการเมืองชื่อดัง อายุ 61 ปี ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่วนหลังถูกโยงเป็นคนที่มีชื่อในธุรกิจเครือข่ายดัง โดยมีการเล่าว่า
แซม เล่าต่อว่า “พี่เข้ามาอยู่ดิไอคอน เข้ามาปลายปีเอง ไม่ครบปีเลย แต่ที่พี่เห็นนะ ตอนนี้เราไม่ได้พูดว่าสินค้าไม่ได้ไม่มีคุณภาพ แต่มันคือการขายไม่ได้ กับเรื่องนี้พี่เสนอบริษัทไปนะ แต่ในฐานะที่เกิดมาพี่อยู่กับประชาชนมาตลอด ไม่ว่าจะเล่นหนัง เล่นละคร ก็อยู่กับประชาชน ถ้าเราช่วยได้ส่วนตัว ก็ช่วยได้ แต่ถ้าบริษัทพี่รับฟังได้ ไปถ่ายทอดต่อได้ แต่จะได้ผลลัพธ์ยังไงพี่ตอบไม่ได้ ตอนคุยกับพอล เขาไม่ได้เล่าวิธีแก้ไขปัญหานะ คือเมื่อวานเห็นกับตาคือเขาแซด(เสียใจ)มากนะ ไม่คิดว่าเรื่องจะมาถึงตอนนี้ ตรงนี้สเต็ปหนึ่ง สอง หรือสาม เขาไม่ได้เล่านะว่าจะทำอะไรต่อไป คือเขาบอกว่าเขาทำธุรกิจมาเพื่อให้โอกาสคน แต่คนไหนไปไม่ถึง ล้มเหลวมาคุยกัน พี่ว่าน่าจะโอเคกว่า กับเรื่องราวที่ตัวแทนฆ่าตัวขายของไม่ได้ ยืนยันว่าไม่มีใครรู้ แต่เรื่องขายไม่ได้หมดเลย จนบ้านถูกยึด ทุกคนตกใจว่าขนาดนั้นเลยเหรอ มันอยู่ในโลกออนไลน์ เราไม่เจอบุคคลนั้น ไม่รู้ยัวไง แต่ที่ออกมาพี่ไม่ได้กลัวนะ พี่มั่นใจว่าพี่ไม่ได้ผิด พี่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย พี่ทำหน้าที่ของพี่ ได้ค่าตอบแทนในส่วนพี่เท่านั้น”
“สถานะพี่คือไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่พี่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไม่มีสิทธิ์กำหนดทิศทางบริษัท พี่ได้แค่นำเสนอ พี่ได้รายได้จากบริษัทนี้คือสินค้าตัวไหนที่เราช่วยคิดก็ได้เปอร์เซ็นต์ จากยอดขาย พี่ไม่ได้มีหุ้นนะคะ บริษัทนี้พี่ไม่มีหุ้นส่วนเลย มีเขา(คุณพอล)คนเดียว ข้อดีคือการตัดสินใจคนๆเดียว ข้อดีอยู่ตรงนั้น ตอนแรกมองว่าคือข้อเสียนะ แต่ตอนนี้คือข้อดี เพราะเราไม่มีส่วนในการตัดสินใจเลย เรื่องเงิน ไม่ได้บอกเป็นตัวเลขนะครับ เพราะแต่ละเดือนไม่เท่ากัน พี่ผ่านบริษัทมาหลายบริษัทนะ มันมีผู้ถือหุ้น มีประธาน มีอื่นๆ ที่นี่ดิไอคอน ไม่มีแบบนั้นนะครับ เรื่องเพื่อนๆของเรา น้องมีน พีชญา ก็ตกใจ ที่ถูกด่าลามไปถึงครอบครัวและการทำธุรกิจของเขามาตลอด คืออย่างพี่ต้องบอกก่อนว่าพี่ระวังตัวอยู่แล้ว พี่ไม่อยากเป็นจำเลยนะ เราก็ออกมาพูดในมุมเรา เพราะเราไม่ได้รู้ทุกเรื่องนะและเราก็ไม่ได้ไปต่อกับดิไอคอน เพราะพี่อยากเป็นเจ้านายตัวเองมาตลอด ดังนั้นพี่ไม่ได้รู้ทุกเรื่องและพี่ย้ำว่าพี่ไม่ได้พูดในฐานะจำเลยนะ ถามว่าเสียใจไหมที่ถูกมองว่าเป็นธุรกิจหลอกลวงและมีชื่อเราเข้าไปด้วย การที่พี่พูดไม่ได้แก้ตัว เราให้ข้อมูล และพูดกี่ครั้งข้อมูลก็จะเป็นแบบนี้ เพราะเรื่องมันเป็นแบบนี้ แต่หลังจากนั้น ตัดสินยังไง ก็ว่ากัน”
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก sam_yuranan