สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ว่านายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวถึงการที่นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ และตัวแทนพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พ.ย เรียกประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย “เผด็จการฆาตกร” ระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุรายการหนึ่ง สะท้อนว่า “การเมืองของกลุ่มชนชั้นนำในสหรัฐ ได้รับการหล่อหลอมผ่านวัฒนธรรมการเมืองเช่นนี้”
ขณะเดียวกัน เปสคอฟกล่าวว่า ทรรศนะดังกล่าวของแฮร์ริสอาจเป็น “ธาตุแท้” ของโมเดลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่สหรัฐพยายาม “ยัดเยียด” ให้กับทั้งโลก แต่ดูเหมือนว่า ส่วนใหญ่ของโลกกำลังนิยมชมชอบแนวทางเช่นนี้น้อยลงอย่างต่อเนื่อง
⚡️Kamala Harris on Trump sending COVID tests to Putin during 2020 shortage:
— vanya ✙ (@eurovanya) October 9, 2024
“Trump was sending tests to Russia to a murderous dictator for his personal use while he was telling Americans to put bleach in their blood. People were dying by hundreds and couldn’t get testing kits.” pic.twitter.com/RLINbMUm6d
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย ซึ่งเป็นสองประเทศมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ของโลก ตึงเครียดมากขึ้นเป็นลำดับ นับตั้งแต่วิกฤติขีปนาวุธคิวบา เมื่อปี 2505 หลังจากนั้น ต่างฝ่ายต่างมีวาทกรรมออกมาสาดโคลนกันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเตือนให้อีกฝ่าย “เลิกวิพากษ์วิจารณ์” กิจการภายในของกันและกัน
ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ทำเนียบขาวเคยเรียกร้องให้ปูตินยุติการให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองภายในของสหรัฐ และเตือนซ้ำอีกเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา หลังผู้นำรัสเซียกล่าวว่า “ชอบ” แฮร์ริส มากกว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและแคนดิเดตพรรครีพับลิกัน เนื่องจากรองผู้นำหญิงของสหรัฐ “หัวเราะแบบหยุดไม่ได้ ซึ่งสะท้อนว่า เป็นคนที่ไม่ได้มีปัญหากับอะไรเลย”.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES