ปัจจุบันเกิดการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มากมาย แล้วมีพันธสัญญาอะไรอีกที่ช่วยให้ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นจริงได้
1. European Green Deal 2020 : แผนการปฏิรูปสีเขียว สมาชิกในกลุ่ม EU เอาจริงเอาจังกับการลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ Carbon Neutrality ในปี 2050 อุตสาหกรรม และกิจกรรมต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชนจะต้องคำนวณการปลดปล่อยคาร์บอน มีแผนการลด และหาวิธีชดเชยที่ได้มาตรฐาน และการควบคุมคาร์บอนนี้จะสะเทือนถึง Supply Chain ที่อยู่ในประเทศที่เป็นคู่ค้าด้วย สิ่งหนึ่งที่พวกเราโดนแล้วคือมาตรการ CBAM ภาษีคาร์บอนข้ามพรหมแดน
2. Circular Economy Action Plan : แผนปฏิบัติการเศรษฐกิจหมุนเวียน แผนนี้ควบคุมการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นนํ้ายันปลายนํ้า ให้สามารถ Reduce Reuse และ Recycle ได้ เพื่อให้การใช้ทรัพยากรที่เหลือน้อยแล้ว มีประสิทธิภาพสูงสุด
3. Renewable Energy Expansion: เร่งแผนการขยายแหล่งพลังงานทางเลือกอย่างเต็มที่ พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ ลม นํ้า จากนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยจะต้องลดการใช้พลังงานจากฟอสซิลให้ได้ มีผลกระทบกับค่าไฟฟ้า การออกแบบอาคารที่อยู่อาศัย และผังเมืองกับการเชื่อมต่อ ยานพาหนะต่าง ๆ ที่ทำให้เมืองในยุโรปกำลังเปลี่ยนไป
4. Biodiversity Strategy : ยุทธศาสตร์ความหลากหลายทางชีวภาพ ชาวยุโรปเห็นว่าเมื่อความเจริญ และความเป็นเมืองขยายตัวมากขึ้น เขาก็สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ทำให้ธรรมชาติเสียสมดุล เขาเริ่มเพิ่มพื้นที่สีเขียว หาพันธุ์พืชท้องถิ่นที่ดึงดูดแมลง ผีเสื้อ โดยพยายามฟื้นฟูให้ความสำคัญกับความสมบูรณ์ของระบบนิเวศของเมืองต่าง ๆ
5. Green Finance Initiatives: นวัตกรรมการเงินเพื่อความยั่งยืน ชาวยุโรปจะใช้เครื่องมือการเงิน การธนาคารใหม่ ส่งเสริมความยั่งยืน เช่น การจูงใจด้วยดอกเบี้ยตํ่าสำหรับกิจการที่ลดคาร์บอนได้ รวมถึงกลไกภาษีที่เข้มงวด
6. Legislation on Plastics: กฎระเบียบใหม่ ๆ เกี่ยวกับพลาสติก ที่จะบังคับ ควบคุมอย่างเข้มข้นกับพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว ลดการใช้พลาสติก หานวัตกรรม Packaging ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ชาวยุโรปนำเราไปแล้วหนึ่งก้าว ถึงเวลาหรือยังที่ชาวไทย และอาเซียนจะร่วมมือกันอย่างจริงจัง.