รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้รถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ได้ปรับราคาลดลง ทั้ง ดีพอล เอส 07 ลด 280,000 จากเดิมราคา 1,399,000 บาท ราคา 1,119,000 บาท รถโอร่า กู๊ดแคท ลดสูงสุดถึง 240,000 บาท แบ่งเป็นรุ่น กู๊ดแคท PRO 799,000 เหลือ 599,000 บาท กู๊ดแคท ULTRA 899,000 เหลือ 699,000 บาท กู๊ดแคท GT 1,099,000 เหลือ 829,000 บาท ด้วยสถานการณ์ตลาดรถยนต์ช่วงที่ผ่านมายอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งตลาดรถอีวีด้วยเช่นกัน
นายวิชัย สุวรรณศิลา นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว กล่าวว่า สำหรับราคารถอีวีมือสองไม่สามารถบอกได้ เพราะไม่มีผู้ประกอบการรับซื้อ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ยังผ่อนไม่หมดจึงไม่สามารถนำมาขายได้ หากขายจะไม่ได้ราคา หรือหากเป็นรถอีวีที่ถูกยึด จึงต้องประมูล ดังนั้นผู้ประกอบการรถยนต์มือสองไม่มีใครซื้อรถอีวีสต๊อกไว้ ยกเว้นกรณีที่มีลูกค้ารองรับ และมีคำสั่งซื้อมาเท่านั้น
สำหรับสถานการณ์รถยนต์ใช้แล้วช่วงปลายปี ได้ดีขึ้นคาดว่าปีนี้จะกลับมาใกล้เคียงกับก่อนที่จะเกิดโควิดคาดว่า จะมีจำนวนหมุนเวียนในตลาด 1 เท่าของรถใหม่ป้ายแดงหรือ1.2 ล้านคัน เนื่องจากราคาลดลง สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อง่ายกว่ารถใหม่ และราคารถมือสองลดเพียง 10-15% เท่านั้น และอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นตลาดรถมือสอง คืออัตราดอกเบี้ย สถาบันการเงินหันมาปล่อยสินเชื่อ เพราะได้รับดอกเบี้ยที่สูงกว่ารถใหม่ ส่วนของรถมือสองอยู่ที่ 4-5% แต่ของรถใหม่เพียง 2% เท่านั้น
“ที่ผ่านมาเศรษฐกิจยังไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทั่วโลก ส่งผลให้ส่งออกชะลอตัวลง โดยเฉพาะ จีน ก็เช่นเดียวกัน สินค้าจีน มีนโยบายผลิตจำนวนมาก หากขายไม่ได้ ก็จะดั๊มพ์ราคาลง นโยบายนี้ใช้กับทุกสินค้า ไม่เว้นแม่แต่รถยนต์ ในประเทศเองรถยนต์ใหม่ที่ผ่อนต่อไม่ไหว ก็ถูกยึดเดือนละประมาณ 25,000 กว่าคัน ด้านรถอีวี ส่วนหนึ่งยังผ่อนไม่หมด หรือผ่อนไปได้ไม่เท่าไหร่ ราคารถรุ่นใหม่ หรือรุ่นเดียวกันลดราคาลง 30-40% จึงส่งผลต่อตลาดอีวีไม่น้อยทีเดียว”
ทางด้านตลาดรถยนต์รวมเดือนก.ย.ที่ผ่านมา มียอดขาย 39,048 คัน ลดลง 37.1% ส่วนยอดขาย 9 เดือน(ม.ค.-ก.ย.) จำนวน 438,659 คัน ลดลง 25.3% ในส่วนของตลาด เอ็กซ์อีวี มียอดขายทั้งหมด 13,102 คัน คิดเป็นสัดส่วน 34% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด ลดลง 21% ยอดขายรถยนต์ เอชอีวี มีอัตราการเติบโตลดลงเช่นกันที่ 11% แต่ยังคงสัดส่วนการขายสูงที่สุดในตลาดรถเอ็กซ์อีวี ด้วยยอดขาย 7,355 คัน คิดเป็น 56% ของตลาด เอ็กซ์อีวี ทั้งหมด ในส่วนของรถยนต์ บีอีวี ทำยอดขายได้ 4,982 คัน ลดลง 32%
“ช่วงปลายปีต้องจับตาดูค่ายรถยนต์ต่างจะงัดกลยุทธ์การตลาด แคมเปญต่างๆไม่เว้น ทั้งค่ายสันดาป และอีวี ไม่อยู่นิ่งแน่นอน ซึ่งถึงเวลานั้นจะได้ เห็นสงครามราคา ประโยชน์จะตกสู่ผู้ซื้อ แต่ก็ต้องดูสถาบันการเงินว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดด้วยหรือไม่ หรือยังเข้มงวดเช่นเดิม ล่าสุดค่ายใหญ่โตโยต้าได้ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท จัดแคมเปญแล้ว”